Politics

‘ท่านประธานชวน’ มาแล้ว! นั่งบัลลังก์คุมศึกซักฟอก หลังหายป่วยโควิด

อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 3 “ท่านประธานชวน” มาแล้ว! นั่งบัลลังก์คุมศึกซักฟอก หลังหายป่วยโควิด ด้านฝ่ายค้านประกาศตามหารัฐมนตรีหลังไร้เงามานั่งฟัง

รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยนายชวนได้กลับมาทำหน้าที่ประธานการประชุมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ต้องเข้ารักษาตัวเนื่องจากป่วยติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 3

โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นคิวแรกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเจ้าตัวระบุถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงการบริหารของรัฐบาล ทั้งการปล่อยเครื่องบินของเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าไทย สถานการณ์หนี้ต่าง ๆ ของประเทศ การกู้เงิน ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมันที่สูงมากกว่าเดิม ทำให้รายจ่ายประชาชนเพิ่มแต่รายได้เท่าเดิม

ทั้งนี้ ตอนท้ายของการอภิปรายนายมงคลกิตติ นิมนต์พระพุทธรูปปางบิณฑบาต แสดงต่อที่ประชุม พร้อมกับระบุว่า ขอบิณฑทบาต พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปลดปล่อยประเทศไทย ประชาชนไทย ด้วยการลาออกจากนายกฯ อยู่มาแล้ว 8 ปี 2 เดือน ถ้าอยู่ต่อไปไม่มีประโยชน์ ผมจึงขอบิณฑบาต

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

ไม่มีรัฐมนตรีมานั่งฟังเลย

จากนั้น นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย หารือว่าวันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ปรากฏว่าไม่มีรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียวมานั่งฟังบนบัลลังก์เลย เช่นเดียวกับนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ก่อนอภิปรายก็ได้เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีมานั่ง โดยกล่าวว่า ตนจะอภิปรายนายกฯ ก็ควรจะได้ทราบว่านายกฯฟังอยู่หรือไม่ เพราะเรื่องของตนเป็นเรื่องสำคัญ ถามว่าเราจะอภิปรายแบบที่ไม่มีรัฐมนตรีมาฟัง ซึ่งผิดข้อตกลงของวิปจริง ๆ หรือ

นายชวน ตอบกลับว่า ตนก็ไม่ทราบว่าขณะนี้นายกฯ อยู่ทีใด แต่ตามหลักผู้ถูกอภิปรายไม่จำเป็นต้องอยู่ตลอด แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายขจิตรเช่นกันที่จะขอเลื่อนการอภิปรายออกไปหรือไม่

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

อย่างไรก็ตาม นายขจิตร ได้เข้าสู่เนื้อหาอภิปรายเกี่ยวกับค่าโง่คลองด่าน โดยกล่าวว่า รัฐบาลสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ 4.8 พันล้านบาท เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนั้นให้จ่ายเงินแก่เอกชน ผิดประมวลกฎหมายมาตรา 157 สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อแผ่นดิน นายกฯละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

นอกจากนั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ มาดำรงตำแหน่งนายกฯในรัฐบาลปัจจุบัน ยังละเว้นไม่ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงหาผู้รับผิดทางแพ่ง ที่ได้จ่ายเงิน 4 พันกว่าล้านบาท เพราะคนที่ต้องรับผิดชดใช้เงินรัฐ คือ ครม.รัฐบาลประยุทธ์สมัย คสช.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo