“พล.อ.ประวิตร” ปลื้มไทยปราบปรามค้ามนุษย์เข้าเป้า กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐยกชั้นไทยขึ้นเทียร์ 2 ปฎิบัติเข้มข้น แก้ปัญหาได้ดีขึ้น
วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ความก้าวหน้าของการดำเนินนโยบาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย เป็นไปตามเป้าหมายในการปฎิบัติการอย่างจรังจัง จนได้รับการยกระดับเป็น เทียร์ 2 ( 2 Watch List )ที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้จัดทำรายงาน TIP Report 2022 (Trafficking in Persons Report) ประจำปี 2565
ระบุถึงสถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทยที่รายงานว่า รัฐบาลไทยได้แสดงให้เห็นถึงความพยายาม ที่เพิ่มขึ้นในการต่อสู้กับการลักลอบค้ามนุษย์ภายใต้ข้อจำกัด ของการเผชิญวิกฤติการระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องซึ่งไทย ได้เร่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่า ด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 ที่มีเป้าหมาย เพื่อยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในทุกขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ
ทั้งนี้ จากการปฏิบัติการของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งให้ผลการดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดในคดีค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จากจำนวนจับกุมและดำเนินคดี ในปี 2563 จาก 133 คดี เพิ่มขึ้นเป็น 188 คดี และในช่วงเดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565 ได้ดำเนินการข้อเสนอแนะในรายงานทิพรีพอร์ต (2021 US TIP Report) จนสำเร็จครบทั้ง 15 ข้อ ขณะเดียวกัน ยังได้ริเริ่มโครงการสำคัญ (Flagship Project) อีก 4 โครงการ ได้แก่
1. จัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วย กลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565
2. จัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ระดับประเทศ
3. จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์
4. ออกมาตรการเชิงรุกด้านการป้องกันเด็กจากการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยระดับสากลอย่างยั่งยืน
โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ระบุว่า สหรัฐ พิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานขั้นต่ำในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ แต่ยังมีความพยายามอย่างมีนัยสำคัญในการดำเนินการ และมีความพยายามเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับระยะเวลาการรายงานปี 2564 แม้ว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การสืบสวนคดีค้ามนุษย์มีจำนวนเพิ่มขึ้น การพัฒนากลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) และระยะเวลาการฟื้นฟูไตร่ตรอง (Reflection Period) การจัดทำคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน สำหรับผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ ตามมาตรา 6/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
การริเริ่มสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จำนวน 17 คน การจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แห่งใหม่ การจัดทำแนวปฏิบัติสำหรับพนักงานตรวจแรงงานในการส่งต่อกรณีที่อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ไปยังทีมสหวิชาชีพ และการระบุตัวผู้เสียหายได้จำนวนปี 2564 เป็นต้น
การจัดระดับที่ดีขึ้นของประเทศไทยในปีนี้ เกิดจากการทำงานร่วมกันขับเคลื่อนจนมีผลดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมใน 3 ด้านสำคัญ ทั้งด้านการดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การพัฒนากลไกการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายโดยคำนึงถึงสภาวะทางจิตใจและยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งการทำงานเชิงป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ในกลุ่มเสี่ยงและแรงงานต่างด้าว โดยถือเป็นความสำเร็จอีกระดับหนึ่ง ของประเทศไทยจะยังคงมุ่งมั่นป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สหรัฐ’ ปรับ ‘ไทย’ ขึ้น ‘เทียร์ 2’ ค้ามนุษย์ สะท้อนแก้ปัญหาดีขึ้น
- ‘สหรัฐ’ ทลายแก๊งค้ามนุษย์ มีผู้ต้องหาไทยร่วมทำผิด 1 ราย
- ‘ฟินแลนด์’ จำคุกนายจ้าง 1 ปี 10 เดือน ค้ามนุษย์ ‘แรงงานไทย’ 26 คน