ปฏิบัติการ ฝนหลวงล้างฝุ่นพิษ ขึ้นบินแล้วเป็นวันที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ด้านอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เพิ่ม 2 แนวสร้างการก่อตัวของเมฆ ที่อ.บางน้ำเปรี้ยว และอ.องค์รักษ์ สร้างเมฆฝนใกล้กรุงเทพฯ หวังฝนตกถึงฝั่งธนฯ
นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมการปฏิบัติการ ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่สามารถทำให้ฝนตกลงมา บรรเทาปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก MP2.5 ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งช่วยสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงฯ หาแนวทางปฏิบัติการ ทำให้ฝนตกครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในหลายเขตยังสูงอยู่
ได้สั่งกรมฝนหลวงฯให้ stand by ตลอด 24 ชม. เมื่อความชื้นทำได้ให้ขึ้นทำทันที
ด้านนายสุรสีห์ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการที่กรมฝนหลวงฯ ได้ประชุมผ่านระบบ VDO Conference กับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก จังหวัดระยอง หลังตรวจสภาพอากาศในช่วงเช้า ซึ่งความชื้นสัมพัทธ์อยู่ที่ประมาณ 70% ใกล้เคียงกับเมื่อวาน แต่ค่าการยกตัวของเมฆน้อยกว่า จึงทำให้การก่อตัวของเมฆยากขึ้น ได้สั่งการให้วางแกนสร้างแนวก่อตัวของเมฆจาก 1 แนวเพิ่มเป็น 2 แนว
โดยแนวแรกวางจากอำเภอบางปะกง ถึงอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ส่วนแนวที่ 2 วางจากอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทราถึงอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งแนวที่ 2 นี้ใกล้กรุงเทพฯมากขึ้น ขณะที่กระแสลมยังเป็นลมตะวันออก ความเร็ว 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่วางแนวการก่อตัวของเมฆเช่นนี้ คาดหวังให้ฝนจากที่เมื่อวานนี้ตกในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ได้แล้ว เมฆจะสามารถลอยตัวไปถึงฝั่งตะวันตกหรือฝั่งธนบุรีได้ เพราะได้รับรายงานจากกรมควบคุมมลพิษว่า ในฝั่งธนบุรี ยังมีพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงอยู่
“ในวันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยเครื่องบิน CASA 2 ลำได้นำสารฝนหลวงขึ้นไปโปรยสร้างแกนเพื่อให้เมฆก่อตัวตั้งแต่เวลา 10.30 น. จากนั้นในช่วงบ่ายจะขึ้นบินเพื่อปฏิบัติในขั้นการเลี้ยงให้อ้วนคือ ทำให้เมฆขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งหากทำให้มีฝนตกกระจายสู่พื้นที่กรุงเทพฯมากขึ้นกว่าวานนี้ จะช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้มาก” อธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าว
