Politics

ปลัดสธ. ห่วง กลุ่มเสี่ยง ฉีด ‘เข็มกระตุ้น’ แค่ครึ่ง

ปลัดสธ. ห่วงกลุ่มเสี่ยง ฉีด ‘เข็มกระตุ้น’ แค่ครึ่ง เผยมีผู้มารับวัคซีนน้อยลงมาก ภาพรวมยังห่างเป้าหมาย

วันนี้ (22 มิ.ย. 65) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังมีการผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง และลดระดับการแจ้งเตือนภัยเป็นระดับ 2 ทั่วประเทศ สถานการณ์โควิด 19 ไม่ได้รุนแรงมากขึ้น แนวโน้มผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา ผู้ป่วยอาการหนักลดลงและเริ่มทรงตัว

กลุ่มเสี่ยง

ขณะนี้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอำเภอเมือง สาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิด ส่วนใหญ่มีไข้เล็กน้อย ไอ เจ็บคอ คล้ายไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับ 20 รายต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ที่ไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเกณฑ์

กลุ่มเสี่ยง

ภาพรวม เข็มกระตุ้นแค่  42.3%

การฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการติดเชื้อและช่วยป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสม 139.3 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มแรก 81.8% เข็มสอง 76.2% และเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็ม 3 ขึ้นไป 42.3% เฉพาะกลุ่ม 608 ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครอบคลุม 54.7%

พื้นที่ที่มีความครอบคลุมสูงสุด คือ กทม. 67.5% รองลงมาคือ เขตสุขภาพที่ 4 (64.2%) และเขตสุขภาพที่ 6 (62.1%) ส่วนพื้นที่ที่มีความครอบคลุมน้อย คือ เขตสุขภาพที่ 12 (32.5%) เขตสุขภาพที่ 11 (40.2%) และเขตสุขภาพที่ 8 (41.93%) ซึ่งภาพรวมถือว่ายังห่างจากเป้าหมายที่กำหนดให้มีความครอบคลุมของเข็มกระตุ้นมากกว่า 60% เพื่อให้เปิดประเทศอย่างปลอดภัย สอดรับกับการเดินหน้าสู่โรคประจำถิ่น

กลุ่มเสี่ยง

ขณะนี้ประชาชนมารับวัคซีนโควิด 19 น้อยลง เฉลี่ยประมาณหลักหมื่นรายต่อวัน เนื่องจากส่วนหนึ่งยังมีความกลัววัคซีน อีกส่วนเห็นว่าผู้ติดเชื้อลดลงและอาการไม่รุนแรง จึงคิดว่าได้วัคซีน 2 เข็มก็เพียงพอแล้ว ซึ่งที่น่าห่วงคือผู้เสียชีวิตจากโควิดขณะนี้ ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้น

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า จึงต้องรณรงค์ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากขึ้น โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่กลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ตระหนักถึงความจำเป็นของการรับเข็มกระตุ้น และเร่งนำวัคซีนไปหาประชาชน โดยความร่วมมือของผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และสาธารณสุข เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการเสียชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo