Politics

โว! มีของดีช่วงซักฟอก ‘ยุทธพงศ์’ ประกาศจองกฐิน ‘สันติ’ ปมท่อส่งน้ำอีอีซี

เสี่ยโจ้ “ยุทธพงศ์ “ประกาศจองกฐินซักฟอก “สันติ” ปมประมูล ท่อส่งน้ำอีอีซี มูลค่า 25,000 ล้านบาท โว!! มีทีเด็ดของดีช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ย้ำเป็นเรื่องใหม่  ขณะ “อาคม” เบรกเซ็นสัญญาผู้ชนะ หวั่นผิดกฎหมาย 

หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านใน สภาผู้แทนราษฎร ได้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านและบรรดาส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำรายชื่อ 182 รายชื่อ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน ไปเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565

ท่อส่งน้ำอีอีซี

นายแพทย์ชลน่าน ย้ำว่าการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตั้งเป้าไว้ 2 เรื่อง 1. เด็ดหัวนายกฯ  และ 2. สอยนั่งร้าน 10 รัฐมนตรี เพราะฝ่ายค้านเราใช้ข้อกล่าวหาเป็นรายบุคคลอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กับข้อกล่าวหาไม่ซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการทุจริตต่อหน้าที่ ละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์” 

ท่อส่งน้ำอีอีซี  ของดีต้องรอช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้ที่จองกฐินอภิปราย นายสันติ ถึงประเด็นการคัดเลือกเอกชนมาบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรืออีอีซี มูลค่า 25,000 ล้านบาท แต่กลับไม่โปร่งใส กล่าวว่าได้ยื่นเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสันติ ไปแล้วต่อประธานรัฐสภา

“ผมบอกเลยเรื่องนี้เรียกว่า ของดีตอนช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าเรื่องนี้ไม่มีของดี หรือฝ่ายค้านไม่มีทีเด็ดอะไร นายกรัฐมนตรี (พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) จะสั่งให้หยุดไว้ก่อนได้อย่างไร เพราะที่จริงวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เขาต้องเซ็นสัญญาไปหมดแล้ว แต่คนที่สั่งให้หยุดคือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอีอีซี ถ้าฝ่ายค้านไม่มีทีเด็ดอะไรนายกฯจะไปสั่งทำไม” นายยุทธพงศ์  กล่าวและว่าที่จริงเรื่องนี้ ถ้าเซ็นสัญญาได้จริงคงเซ็นไปนานแล้ว

ท่อส่งน้ำอีอีซี

 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่าตนเห็นความผิดปกติของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำสายหลักพื้นที่ภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่กรมธนารักษ์ กำลังรับผิดชอบ และเกิดข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใส ในการประมูลคัดเลือกในครั้งนี้  หากปล่อยโครงการขุดท่อส่งน้ำทั้งหมดไปให้บริษัทอะไรไม่รู้  เกิดบริษัทไม่มีน้ำมาให้มันไม่พังไปทั้งอีอีซีหรืออย่างไร เพราะน้ำดิบไม่เพียงพอกับการขยายตัวของนิคมอุสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่ตะวันออกต้องไปผันน้ำจากที่อื่น บริษัทที่เอาเข้ามาทำได้จริงหรือไม่ อีกประเด็นการไปเชิญบริษัทเข้าร่วมประมูลทั้ง 5 ราย มันก็แปลกๆ อยู่เหมือนกัน

ผมว่าเรื่องนี้ถ้าไม่แปลก ท่านอาคม คงให้เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ยอมให้เซ็นสัญญา เพราะมันผิดกฎหมาย

“ผมว่าเรื่องนี้ถ้าไม่แปลก ท่านอาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คงให้เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ยอมให้เซ็นสัญญา เพราะมันผิดกฎหมาย ตั้งแต่กระบวนการประมูล และวิธีการประมูลแล้ว รวมถึงการปรับแก้ทีโออาร์ เพื่อเปิดทางให้บริษัทเล็กๆ เข้ามาได้ ที่จริงควรทำเพื่อให้ประโยชน์กับทางราชการ  ผมว่าเรื่องนี้ปล้นชาติปล้นแผ่นดิน ผมขอเก็บข้อมูลเด็ดไว้ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็แล้วกัน” นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ ย้ำอีกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่ยังไม่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องเก่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟฟ้า หรือ เรือดำน้ำ จากที่ถามกระทู้กับการอภิปรายงบประมาณวาระ 1 ไป นายสันติ ตอบอะไรก็ไม่รู้ “ผมเห็น หัวหน้า “กลุ่ม 16” ท่านพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ออกมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นจุดแตกหัก เรื่องอื่นคุยกันได้

ก่อนหน้านี้ นายยุทธพงศ์ ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องความไม่โปร่งใส เกี่ยวกับการประมูลโครงการท่อส่งน้ำสายหลักพื้นที่ภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่กรมธนารักษ์  กำลังรับผิดชอบ ว่ามีข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการประมูล

ความผิดปกติ ในระเบียบที่ราชพัสดุ ของกระทรวงการคลัง ที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาทขึ้นไป เวลาจะดำเนินการต้อง“ประกวดราคา” ก็จะใช้ “วิธีการประมูลทั่วไป” แต่โครงการท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่กรมธนารักษ์ กำลังดำเนินการคัดเลือก ขณะนี้ไป “ใช้วิธีการคัดเลือก”

ท่อส่งน้ำอีอีซี

การเปิดซองประมูลครั้งแรก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เป็นผู้ชนะประมูล พบว่า “มีการยกเลิก” โดยคณะกรรมการคัดเลือกการชนะประมูล จนบริษัทอีสท์ วอเตอร์ ต้องฟ้อง  ต่อมาได้ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ โดยเปลี่ยนกรรมการชุดแรก ที่คัดค้านการยกเลิก บริษัทอีสท์ วอเตอร์ จนทำให้บริษัทวงษ์สยาม ชนะการคัดเลือกรอบที่สอง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight