Politics

กทม. เข้ม ‘โรงเรียนปลอดกัญชา’ กรณีฉุกเฉิน ครูพยาบาลพร้อมส่งต่อ

กทม. เข้ม ‘โรงเรียนปลอดกัญชา’ จับตา อาหาร-ขนม ทั้งในและรอบโรงเรียน กรณีเกิดเคสฉุกเฉิน ระบบปฐมภูมิ ครูพยาบาลจะประสานส่งต่อ รพ. อย่างรวดเร็ว

ผศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคออกประกาศ กทม. เกี่ยวกับ แนวทางการเฝ้าระวังกัญชาในสถานศึกษา โดยจะให้โรงเรียนมีสิทธิ์ตรวจตรา หรือขอทราบประเภทอาหาร-ขนม หรือสิ่งใด ๆ ก็ตามที่เป็นความสุ่มเสี่ยง ที่จะทำให้กัญชาแอบแฝงหรือเจือปนเข้าสู่สถานศึกษาหรือโรงเรียนได้

โรงเรียนปลอดกัญชา

รวมถึงการให้สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ สำนักการศึกษา และสำนักงานเขต ประสานการทำงานในรูปแบบการส่งต่อข้อมูลกันอย่างรวดเร็วที่สุด โดยสิ่งสำคัญคือ แนวทางการปฏิบัติ และข้อควรระวัง ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียน ครู ศูนย์บริการสาธารณสุข เครือข่ายเฝ้าระวังต่าง ๆ โรงพยาบาล และสำนักงานเขต จะต้องมีข้อมูลในมือเป็นชุดข้อมูลเดียวกัน ตรงกันทั้งหมด

เข้ม ‘โรงเรียนปลอดกัญชา’

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เร่งเรื่องมาตรการดูแลประเด็นกัญชาในกลุ่มโรงเรียน ซึ่งต้องระมัดระวังมาก เพราะมีเด็กและเยาวชนที่อายุไม่เกิน 18 หรือ 20 ปี ที่ทางการแพทย์ยังไม่แนะนำให้ใช้กัญชา โดยประกาศดังกล่าว จะเป็นมาตรการและแนวทางเพื่อให้โรงเรียนปฏิบัติ

สำหรับมาตรการเฝ้าระวังในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 โรงเรียน จะมีครูพยาบาล มีบุคคลากรทำหน้าที่ในการดูแลอาหาร ขนม สวัสดิการต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่โรงเรียน ดังนั้น มุมหนึ่ง เราต้องจัดการกำกับให้ไม่มีกัญชาในอาหาร หรือไม่ให้มีการเอากัญชา  หรือผลิตภัณฑ์กัญชาใด ๆ เข้ามาอยู่ในสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ด้วยเหตุผลที่ว่า จะปล่อยให้เกิดการบริโภคกัญชาในเด็กไม่ได้ เราต้องกำกับควบคุมเรื่องนี้ค่อนข้างสูง นี่คือเรื่องของความเสี่ยงที่จะมีสารเข้ามาอยู่ในบริเวณโรงเรียน

โรงเรียนปลอดกัญชา

ดึงอาสาสมัครโรงเรียน ช่วยเฝ้าระวัง และให้ความรู้

ผศ.ทวิดา กล่าวต่อไปว่า อีกมิติหนึ่ง ต้องดูไปถึงความรู้ ความเข้าใจและสภาพแวดล้อมของเด็กนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องกัญชาด้วย ซึ่งขณะนี้ทุกโรงเรียน กทม. มีนโยบายแล้วว่า ต้องมีการให้ความรู้ สื่อสารให้เด็กเข้าใจง่าย รวมถึงการดึงอาสาสมัครโรงเรียน (อสร.) มามีบทบาทเพิ่มเติมในเรื่องกัญชา โดยก่อนหน้านี้ อสร. อาจจะเน้นเรื่องเฝ้าระวังให้ความรู้เรื่องบุหรี่ สารมึนเมา สารเสพติด แต่ตอนนี้จะให้เน้นให้ความรู้เรื่องกัญชาด้วย

นอกจากนี้ จะต้องช่วยกันดูแลสังเกตสุขภาพเด็กนักเรียนเมื่ออยู่ที่โรงเรียนว่า มีภาวะอาการที่ทำให้สงสัยว่าไปรับกัญชามาจากครอบครัว หรือชุมชนภายนอกโรงเรียนด้วยหรือไม่ โดยให้พยาบาลจากศูนย์บริการสาธารณสุขเข้าไปยังโรงเรียนถี่ขึ้น ซึ่งแต่เดิมจะเข้าโรงเรียนเพื่อตรวจสุขภาพนักเรียนเชิงรุก ต่อจากนี้จะให้เข้าไปเพื่อให้ความรู้และช่วยกำกับดูแลสภาพแวดล้อมโรงเรียนและสังเกตว่ามีสัญญาณบ่งชี้อะไร ที่ก่อให้เกิดอันตรายกับเด็กนักเรียนหรือไม่ เพราะเด็กนักเรียนของ กทม. ไม่ควรมีภาวะเสี่ยงหรือภาวะที่ไม่ปลอดภัย

ในส่วนของสภาพแวดล้อมในพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่เขตต่าง ๆ กทม. จะต้องมีการเฝ้าระวังและการรายงานข้อมูลที่กระชับฉับไวขึ้น หาวิธีสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจถึงประโยชน์หรือผลกระทบระดับต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กัญชา เพื่อให้ใช้อย่างระมัดระวัง  สำหรับประชาชน ต้องขอความร่วมมือช่วยกันดูแลความปลอดภัยของลูกหลาน และตัวเอง หากจะบริโภคอาหารควรสังเกต หรืออาจใช้วิธีการสอบถามผู้ขายว่ามีส่วนประกอบหรือไม่ เพราะบางรายอาจจะเกิดอาการแพ้ได้ ขอให้ระมัดระวังและหาข้อมูลให้มากขึ้น หากต้องใช้ ขอให้ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย

โรงเรียนปลอดกัญชา
ผศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

กรณีจอเคสฉุกเฉิน ระบบปฐมภูมิต้องรวดเร็ว ครูพยาบาลจะประสานส่งต่อ รพ.

ผศ.ทวิดา กล่าวถึงกรณีหากเจอเคสฉุกเฉินในเด็กนักเรียน กทม.มีระบบเฝ้าระวังแบบปฐมภูมิมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เพื่อเฝ้าระวังระบบสุขภาพ ซึ่งในแง่ของโรงพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ กทม.มีพร้อมรองรับอยู่แล้ว

การดูแลช่วยเหลือเคสนักเรียนให้ไวที่สุด จะต้องเน้นระบบปฐมภูมิให้รวดเร็วมากขึ้น เริ่มที่ครูพยาบาลที่ประจำโรงเรียน และบุคลากรของโรงเรียนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ ได้รับการแนะนำจากศูนย์บริการสาธารณสุข มีระบบการส่งต่อจากโรงเรียนมายังศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ หรือโรงพยาบาลในสังกัด

ด้านการประเมินสถานการณ์แนวโน้มความเสี่ยงของกัญชาที่จะเข้าสถานศึกษานั้น อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นไปได้ รวมถึงการเกิดขึ้นในชุมชนที่เด็ก ๆ ต้องใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะกัญชาขณะนี้สามารถใช้ได้เสรีแล้ว จะต้องเฝ้าระวังและออกมาตรการเพื่อให้เท่าทันด้วย นอกเหนือจากการเฝ้าระวัง จะต้องมีการส่งตัวช่วยเหลือให้รวดเร็ว การเข้มงวดในโรงเรียน รวมถึงการให้องค์ความรู้แก่ครู เด็กนักเรียน และผู้ปกครองควบคู่กันไป

ผศ.ทวิดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการใช้ ใช้อย่างรู้เท่าทันในปริมาณที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงทั้งในด้านการแพทย์ สาธารณสุข สุขภาพ และเศรษฐกิจ

โรงเรียนปลอดกัญชา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo