Politics

‘นายกฯ’ ลั่นหากไม่ต้องกู้เงินมาสู้ ‘โควิด’ หนี้สาธารณะคงไม่สูงถึง 60%

“นายกรัฐมนตรี” แจงสภาฯ ยืนยันการจัดสรรงบประมาณ เป็นไปตามสถานการณ์รัฐบาลและสถานการณ์โลก ชี้กู้เงินเพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด ชี้หากไม่ต้องกู้ หนี้สาธารณะคงไม่สูงถึง 60%

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยินดีรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกทุกคน ซึ่งหลายอย่างต้องให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงในรายละเอียด จึงขอชี้แจงให้รับทราบอีกครั้งในภาพรวมว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เป็นแหล่งเงินประเภทหนึ่งของการทำนโยบายรัฐบาล

ประยุทธ์ 2665132

หนี้สาธารณะคงไม่สูงถึง 60%

ทั้งนี้ หากมองเฉพาะรายการที่ปรากฏตามเอกสาร และตัดสินเลยว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร หรือประเทศเราไม่ได้อะไรนั้น ขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทำงานโดยใช้แหล่งเงินหลายอย่าง บางเรื่องรัฐบาลใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่พิจารณาในช่วงเวลานี้มาดำเนินการ บางเรื่องรัฐบาลใช้เงินกู้ดำเนินการ บางเรื่องใช้เงินรายได้รัฐวิสาหกิจ หรือเงินนอกงบประมาณดำเนินการ โครงการลงทุนส่วนใหญ่ที่ไม่ปรากฏอยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น รัฐบาลจะดำเนินการโดยการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน (PPP) ซึ่งมีความก้าวหน้ามาตามลำดับ

“แม้ว่าใช้งบประมาณขาดดุล หรือมีการกู้เงินในช่วงนี้ จำนวนหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากเงินกู้ 1.5 แสนล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 หากไม่ต้องใช้ยอดนี้มาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน หนี้สาธารณะคงไม่สูงถึง 60%” นายกรัฐมนตรี กล่าว

IMG 20220602141419000000

พยายามใช้งบอย่างจำกัด

สำหรับงบของกระทรวงกลาโหมนั้น ยืนยันว่า พยายามใช้งบอย่างจำกัด เพื่อเตรียมพร้อมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราประมาณการตามความจำเป็นในการจัดหา จัดซื้อยุทโธปกรณ์ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา เราลดงบไปมากพอควร แต่ขอความเห็นใจว่าการจัดทำงบพวกนี้ ต้องจัดทำแผนงานไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถปล่อยให้หมดอายุแล้วค่อยจัดหา แต่ในเมื่อท่านบอกแพง ก็ซื้อเท่านี้ก่อน ส่วนที่วิจารณ์ว่าทำไมไม่ซื้อของดี ๆ จะได้ใช้นาน ๆ เหมือนกับต่างประเทศใช้ ถ้าตนขอท่านก็ไม่ให้อีก ก็เอาเท่านี้ไปก่อน แต่เรื่องการทุจริตหรือผลประโยชน์ต่าง ๆ ก็ไปสอบสวนกันมา เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ชี้แจงได้

“ขอให้เข้าใจกันบ้าง ไม่ใช่ว่าผมอยากซื้อ ไม่สนใจประชาชน ถ้าพูดกันแบบนี้ จะอยู่กันอย่างไร ผมไม่ได้โทษใคร แต่อยากพูดให้ฟัง ท่านก็หาว่าผมกระทบคนอื่น แต่ถึงเวลาพอมีปัญหา ผมพูด ท่านก็โทษผมอยู่ดี วันนี้ที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ค้าขายได้ ถนนไม่ถูกปิด ใครทำงาน แม้จะมีบางคนไปส่งเสริม ผมก็ไม่ว่าเพราะมีกฎหมายดูแลอยู่ ท่านก็ว่าผมว่าไปกดดัน ไปห้าม ไปควบคุม คนที่ทำให้ท่านมานั่งพูดได้อย่างสบายใจตรงนี้ ก็เจ้าหน้าที่ทั้งนั้น ถ้าท่านทำลายขวัญเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะพลเรือน ตำรวจ ทหาร อีกหน่อยใครจะทำงาน เราจะมีความสงบสุขในบ้านเมืองหรือ ปัญหาอยู่ที่หลายอย่างผมรับผิดชอบทุกวัน ทุกคนที่มีสิทธิและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติอยู่แล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo