‘วัคซีนฝีดาษ’ ป้องกัน ‘ฝีดาษลิง’ มีพัฒนาการมาถึง 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว ตั้งแต่ยุคน้ำเหลืองวัว จนถึงดัดแปลงพันธุกรรม ทำเชื้ออ่อนฤทธิ์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง ฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) วัคซีนป้องกันฝีดาษ ไข้ทรพิษ ฝีดาษวานร โดยระบุว่า
วัคซีนฝีดาษ สามารถป้องกันฝีดาษวานรได้ ได้มีการพัฒนากันมาตามลำดับ ถึงสามชั้นแล้ว
1st generation
มีการใช้มากว่า 200 ปี เริ่มจากเอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ (Cow lymph) ใช้น้ำเหลืองของวัวทำให้ติดเชื้อ
ต่อมามีการพัฒนาให้ดีขึ้น freeze-dry ให้มีคุณภาพเก็บได้นาน ใส่ยาปฏิชีวนะ ป้องกันการปนเปื้อนแบคทีเรีย (Dryvax)
วัคซีนในชั้นนี้ได้ใช้จนกวาดล้างฝีดาษหมดไป
2nd generation
cell culture วัคซีน เพาะเลี้ยงเชื้อบน Vero cell (ACAM2000) บริษัท Acambis ได้ไวรัสที่บริสุทธิ์ เพื่อลดการปนเปื้อน
วัคซีนนี้ได้พัฒนาขึ้นมาในช่วงที่จะใช้ในการป้องกัน อาวุธชีวภาพ ได้มีการปลูกฝีไปหลายหมื่นคน ในบุคลากรด่านหน้าของอเมริกา
3rd generation
ใช้สายพันธุ์ Vaccinia มาดัดแปลงพันธุกรรม (Modified Vaccinia Ankara) ผลิตโดย Bavarian Nordic ใช้ชื่อ MVA-BN เป็นไวรัสมีชีวิต ทำให้อ่อนฤทธิ์ ไม่สามารถแบ่งตัวได้
ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง สร้างภูมิต้านทาน ไม่เกิดตุ่มหนอง
ติดตามวัคซีน ฝีดาษตอนต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา!! ดร.อนันต์ เผย ไวรัส ‘ฝีดาษลิง’ กลายพันธุ์เร็วกว่าเดิม 10 เท่า
- โล่งใจ!! ผู้ต้องสงสัย ‘ฝีดาษลิง’ ที่แท้แค่ ‘เริม’ กรมควบคุมโรค ยืนยัน ยังไม่มีผู้ติดเชื้อในไทย
- แย่แล้ว!! ไวรัส ‘ฝีดาษลิง’ ดร.อนันต์ เผย แค่เข้าห้องน้ำ ก็อาจติดเชื้อได้