Politics

เฝ้าระวัง ‘ฝีดาษลิง’ คัดกรองผู้เดินทาง จากประเทศเสี่ยงสูง พร้อม ‘เร่งหาวัคซีน’ เตรียมรับมือ

ยกระดับตั้งศูนย์ EOC เฝ้าระวัง ‘ฝีดาษลิง’ คัดกรองผู้เดินทาง จากประเทศเสี่ยงสูง ทั้งแอฟริกากลาง และยุโรปที่มีการระบาด

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมได้ดำเนินการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคฝีดาษลิง(monkey pox) เพื่อเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด ช่วยให้ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดในหลายประเทศ และสามารถติดต่อจากคนสู่คน

คัดกรองผู้เดินทาง

และเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้ทัน เพราะโรคนี้ยังไม่มียาเฉพาะรักษา และติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศนั้นๆ ที่กำลังมีการระบาด มีการแพร่ระบาดถึงระดับไหน

คัดกรองที่สนามบิน ผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงสูง ต้องสแกน ‘บัตรเตือนสุขภาพ’

ส่วนการเฝ้าระวังโรคภายในประเทศ คือ คนที่เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งอาจไม่มีอาการ แต่เมื่อมาถึงประเทศไทย เกิดตุ่มหนอง ตุ่มน้ำ จะเน้นเฝ้าระวังในประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งประเทศแอฟริกากลาง เช่น ไนจีเรีย และคองโก และประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศแล้ว คือ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส

โดยที่สนามบิน จะมีการคัดกรองอาการในผู้เดินทางมากับไฟลท์บินจากประเทศเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่จะคอยสังเกตดูว่ามีแผลหรือไม่  และแจก ‘บัตรเตือนสุขภาพ’ (Health beware card) เป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกนทุกคน หลักๆ จะระบุว่าหากมีอาการ เช่น ไข้ มีตุ่ม ให้รายงานเข้าระบบ และรีบไปพบแพทย์ใน รพ.ที่ใกล้ที่สุด รวมถึงแจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย

คัดกรองผู้เดินทาง
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ส่วนการเฝ้าระวังที่สถานพยาบาล หากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัย คือ มีอาการเข้าได้กับโรค และมีประวัติเดินทางจากประเทศเสี่ยงที่กำลังมีโรคนี้ระบาด ให้สถานพยาบาลเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ ซึ่งประเทศไทยสามารถตรวจเชื้อนี้ได้ แต่ยังทำได้ที่ส่วนกลาง คือ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรายงานเข้าระบบการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ติดเชื้อเข้าในประเทศไทย อาจจะต้องมีกระจายให้ศูนย์ในต่างจังหวัดช่วยตรวจ

ที่ผ่านมาโรคฝีดาษลิงมีพบประปรายในแอฟริกามานานหลายปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่มีคนไปนำโรคออกมา แต่ครั้งนี้มีคนไปนำโรคออกมา โดยไปติดเชื้อมาจากประเทศในแอฟริกา และบินกลับนำเชื้อเข้ามาในยุโรป ทั้งอังกฤษ สเปน โปรตุเกส และไปสัมผัสใกล้ชิดกันมากกับผู้ที่ติดเชื้อ

คัดกรองผู้เดินทาง

เตรียมรับมือ เร่งหาวัคซีน ไทยไม่มี เพราะเป็นโรคที่ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว

นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ตอนนี้ทั่วโลกยังไม่มีวัคซีน Smallpox มากนก เพราะเป็นโรคที่ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว จะมีเพียงบางประเทศที่ยังเก็บวัคซีนนี้ไว้  และในประเทศไทยไม่มี กำลังมีการประสานงานหาวัคซีนอยู่ว่ามีประเทศใดเก็บไว้บ้าง หรือถ้าจะผลิตเพิ่มก็ต้องดูว่ามีบริษัทใดจะผลิตเพิ่มได้บ้าง เพราะคงต้องใช้เชื้อ ซึ่งเชื้อ Smallpox เดิมมีแค่ 2 ประเทศที่เก็บไว้ คือ สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย แต่ก็สามารถจำลองสายพันธุ์ออกมาทำวัคซีนได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวจริง

ทั้งนี้ คนไทยที่เกิดก่อนปี 2523 จะได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ (Smallpox) ทุกคน แต่คนที่เกิดหลังจากปี 2523 จะไม่ได้รับวัคซีนนี้ เพราะโรคฝีดาษถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว

สำหรับความเสี่ยงของการระบาดโรคฝีดาษลิง กับโควิด-19 น่าจะต่างกัน เพราะโควิด-19แพร่กระจายได้เร็ว อย่างไรก็ตามจะต้องติดตามสถานการณ์และข้อมูลของฝีดาษลิงเพิ่มขึ้น ว่ากลไกในการติดเชื้อนอกจากการอยู่ใกล้ชิดแล้ว มีกลไกอื่นอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้มีข้อมูลน้อยมาก และทั่วโลกมีรายงานผู้ติดเชื้อเพียง 100 ราย ส่วนสายพันธุ์แตกต่างจากที่เคยเจอหรือไม่ จะต้องติดตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo