Politics

สปสช. จับมือ กรมอนามัย ‘ตรวจคัดกรองสายตา’ และให้แว่นตา เด็ก ป.1 ทั่วประเทศ 8 แสนคน

สปสช. จับมือ กรมอนามัย ‘ตรวจคัดกรองสายตา’ และให้แว่นตา เด็ก ป.1 ทั่วประเทศ 8 แสนคน พร้อมดูแลไปจนอายุ 12 ปี

ปัญหาสายตาผิดปกติในเด็ก เป็นประเด็นปัญหาสุขภาพที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนการตsวจคัดกรองสายตาและตัดแว่นตาให้แก่เด็กไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ตรวจคัดกรองสายตา

นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การตsวจคัดกรองสายตาให้กับเด็กถือเป็นสิทธิประโยชน์ ในระบบหลักประกันสุขภาพอยู่แล้ว เพียงแต่การจ่ายชดเชยค่าบริการตรวจคัดกรองสายตา ได้จัดรวมอยู่ในงบเหมาจ่ายรายหัว ภาพของการจัดบริการจึงไม่ชัดเจน

เด็กไทยทุกคนมีสิทธิ พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพื่อให้เด็ก เข้าถึงแว่นตามากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ สปสช.โดยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงอนุมัติให้ปรับเพิ่มการจ่ายชดเชยค่าแว่นตาเด็ก ออกมาเป็นการเฉพาะ หรือจ่ายตามรายการบริการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจัดบริการให้เด็กเข้าถึงแว่นตามากขึ้น

ในสิทธิประโยชน์ของระบบหลักประกันสุขภาพ เด็กที่มีสิทธิคือเด็กไทยทุกสิทธิ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการ อายุตั้งแต่ 3-12 ปี ทั้งที่อยู่ในและนอกระบบโรงเรียน

เพราะในช่วงวัยนี้ หากมีความผิดปกติทางสายตาไม่ว่าจะสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ฯลฯ จะมีปัญหาต่อการเรียนรู้และพัฒนาการ ที่ล่าช้ากว่าปกติ หรืออาจทำให้เด็กไม่อยากเรียนหนังสือ และอาจจะหลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ตรวจคัดกรองสายตา
นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ตรวจคัดกรองให้เด็กป.1 ทั่วประเทศ ส่วนเด็กช่วงอายุอื่นๆ หากพบผิดปกติทางสายตา ไปคัดกรองที่ รพ.ได้

ในทางปฏิบัติอาจคัดกรองให้เด็กทุกคนไม่ได้ เนื่องจากระบบบริการสาธารณสุขของไทย ยังมีจำนวนจักษุแพทย์ไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงจะตรวจคัดกรองเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 7-8 แสนคนทั่วประเทศก่อน เหตุที่เลือกตรวจคัดกรองที่ระดับ ป.1 เพราะสื่อสารกันเข้าใจได้มากขึ้น ทำให้ไม่ยากต่อการตรวจคัดกรองสายตา และยังไม่ช้าเกินไปที่จะแก้ไข

อย่างไรก็ดี สำหรับเด็กในช่วงอายุอื่นแม้ไม่ได้รับการคัดกรอง แต่หากคุณครูสงสัยว่าสายตาผิดปกติก็สามารถมาคัดกรองได้เช่นกัน หรือถ้าเด็กเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน หากผู้ปกครองพบความผิดปกติก็พาไปพบจักษุแพทย์ หรือไปโรงพยาบาลอำเภอ เพื่อตรวจคัดกรองสายตาเบื้องต้นได้เหมือนกัน

ตรวจคัดกรองสายตา

บูรณาการทำงาน ร่วมกัน หลากหลายหน่วยงาน

นพ.จักรกริช กล่าวต่อไปว่า โครงการตรวจคัดกsองสายตาและตัดแว่นให้เด็ก ป.1 ทั่วประเทศนี้ สปสช.ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอีกหลายภาคส่วน เช่น ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานวิชาการที่สนับสนุนความรู้ อบรมเตรียมบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นจักษุแพทย์ พยาบาล รวมทั้งนักทัศนมาตร

ต่อมาคือกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขมีทั้งหน่วยวิชาการและหน่วยบริการ หน่วยวิชาการคือกรมอนามัยที่จะขับเคลื่อนให้เด็กประถมศึกษาทุกคนได้รับการคัดกรอง การสนับสนุนสื่อต่างๆและกำกับติดตามประเมินผล จากนั้นก็คือกรมการแพทย์ซึ่งมีโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยในการฝึกอบรมการคัดกรอง และให้คำปรึกษาแก่หน่วยบริการ

ในระดับพื้นที่ก็มีคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ด้านตา ทำหน้าที่บริหารจัดเครือข่ายหน่วยบริการในพื้นที่ ว่าใครจะคัดกรองตรงไหน ส่งต่อมาพบจักษุแพทย์ตรงไหน เพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น นอกจากนี้ยังมีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในจังหวัด ดำเนินการจัดระบบบูรณาการทั้งครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลที่มีจักษุแพทย์ รวมทั้งการอบรมครูและพยาบาล

และอีกหน่วยงานที่สำคัญ ก็คือกระทรวงศึกษาธิการในฐานะเจ้าของพื้นที่ การคัดกรองต้องคัดกรองในโรงเรียน สนับสนุนให้ครูและผู้บริหารโรงเรียนจัดระบบให้เด็กได้รับการคัดกรอง และต้องมีครูที่ผ่านการอบรมวัดสายตาทำหน้าที่คัดกรองสายตาเด็ก ถ้าพบเด็กมีความผิดปกติทางสายตา ก็จะประสานผู้ปกครอง เพื่อนำเด็กส่งต่อให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคัดกรองซ้ำ

อีกส่วนคือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งมีงบประมาณสนับสนุนให้เด็กเข้าถึงบริการได้ ในอดีตเด็กที่คัดกรองแล้วมัก จะมีปัญหาเรื่องการเดินทางไปพบจักษุแพทย์หรือวัดสายตาที่โรงพยาบาล ดังนั้น ประเด็นเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ก็จะมีกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับพื้นที่ (กปท.) มาสนับสนุนการเดินทางไปโรงพยาบาล ทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อวัดสายตา รับแว่นตา และอีกครั้งเพื่อติดตามประเมินการใช้แว่นเมื่อครบ 6 เดือน ซึ่งในเรื่องนี้ทาง สปสช. ได้สื่อสารกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้สื่อสารนโยบาย และมีการแจ้งลงไปในระดับพื้นที่แล้ว

ตรวจคัดกรองสายตา

โรงพยาบาลหลัก ที่มีจักษุแพทย์ มีราว 150 แห่ง

ส่วนหน่วยงานหลักในการให้บริการก็คือโรงพยาบาล ที่มีจักษุแพทย์ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 150 แห่ง แต่ในโรงพยาบาลชุมชนที่ไม่มีจักษุแพทย์ก็จะช่วยทำการคัดกรองซ้ำ เพื่อให้ได้เด็กที่จำเป็นต้องพบจักษุแพทย์จริงๆ แล้วส่งไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลจังหวัด และสุดท้ายคือ สปสช. เขตมีหน้าที่สนับสนุนให้เกิดกระบวนการทั้งหมดนี้ และกำกับติดตามว่าพื้นที่ใดเด็กยังไม่ได้รับการคัดกรองและรับแว่นตาบ้าง

โครงการนี้จะบูรณาการกันหลายหน่วยงาน ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กชั้น ป.1 ทุกคนได้รับการตรวจคัดกsองสายตา และตัดแว่นให้เด็กที่มีปัญหาสายตาผิดปกติ และจะช่วยช่วยให้ได้รับแว่นตาต่อเนื่องไปจนถึงอายุ 12 ปี หรือจนกว่าจะจบชั้นประถมศึกษา

สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง ได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ ทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo