สธ.เผย กทม. เข้าเกณฑ์ เดินหน้าสู่ ‘โรคประจำถิ่น’ ได้ ด้านกทม. เตรียมพิจารณาเปิดสถานบันเทิงภายใต้เงื่อนไข และถอดหน้ากากอนามัยในพื้นสาธารณะ
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับกทม. เกี่ยวกับแนวทาง การเตรียมความพร้อมพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้รับมือโรคโควิด 19 ตามแนวทางการขับเคลื่อน บริหารจัดการโรคโควิด 19 แบบโรคประจำถิ่น ว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของประเทศไทยเริ่มคลี่คลายมากขึ้น หลายจังหวัดมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง
กรุงเทพสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนฉีดเข็มกระตุ้นกว่า 60%
กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ตามแนวทาง 2U 3พอ ได้แก่ Universal Prevention ใช้การป้องกันตนเองขั้นสูงสุดต่อเนื่อง, Universal Vaccination ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม, มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วยโควิด, มียาและวัคซีนฉีดเพียงพอให้ประชาชน และมีบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยเพียงพอ
สำหรับกรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดหนึ่งที่สถานการณ์ดีขึ้น ผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อได้รับการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) และแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ขณะที่การฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมสูง คือ เข็ม 1 และเข็ม 2 ได้เกิน 100% ส่วนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 มีความครอบคลุมมากกว่า 60% สามารถเดินหน้าเข้าสู่การเป็นจังหวัดที่บริหารจัดการโรคโควิด 19 แบบโรคประจำถิ่น (Endemic Sandbox)
ทั้งนี้ได้แนะนำให้มุ่งเน้นการจัดการในพื้นที่สำคัญ เช่น สวนสาธารณะ ที่มีคนจำนวนมาก กิจการที่มีความเสี่ยง เช่น ผับ บาร์ รวมถึงขนส่งสาธารณะต่าง ๆ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ประชาชนค่อยๆ ปรับตัว และการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น
พิจารณาเปิดสถานบันเทิงภายใต้เงื่อนไข และถอดหน้ากากอนามัยสถานที่สาธารณะ
ด้าน พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการหารือ กำหนดแนวทาง และเตรียมแผนการนำโควิด-19 เดินเข้าสู่โรคประจำถิ่น และวางแผนโดยอาจจะมีการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม บางอย่าง แต่ยังต้องไปหารือในรายละเอียด เนื่องจากปลัด สธ.ได้ให้ทางคณะทำงานใน สธ. ไปยกร่างรายละเอียด เพื่อเป็นแนวทางให้แต่ละพื้นที่นำไปปรับใช้
สำหรับ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ยังไม่เปิดดำเนินการ โดยอาจจะพิจารณาให้เปิดภายใต้เงื่อนไขมาตรการควบคุมโรค หรือบางสถานที่สาธารณะที่ประเมินแล้วว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะพิจารณาให้สามารถถอดหน้ากากได้
พญ.ป่านฤดี กล่าวว่า สำหรับวัคซีนเข็มกระตุ้น กรุงเทพมหานครได้เร่งประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนไปเข้ารับวัคซีนให้มากที่สุด อย่างน้อยเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ สธ.กำหนด ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต เร่งไปติดตามว่ายังมีประชาชนในชุมชนรายใดที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบตามกำหนด เพื่อติดตามให้กลุ่มนี้เข้ารับวัคซีนให้เร็วที่สุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศูนย์จีโนมฯ ให้คำตอบ ทำไม ‘ต้องฉีดวัคซีน’ แม้ประกาศเป็น ‘โรคประจำถิ่น’
- นายกฯ แนะ รร. ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เข้มทุกมาตรการ พร้อมเปิดเทอม เหลื่อมเวลา เรียน-กิน-เล่น
- ผู้สูงอายุ ฉีดเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน ติดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 และ BA.2.12.1 อาการรุนแรง
