สธ. ชี้ยังไม่มีจังหวัดใด พร้อมเข้าเกณฑ์นำร่อง ‘โรคประจำถิ่น’ เผยหากผ่านเกณฑ์ ต้องทำแผน ‘แซนด์บ็อกซ์’ คาดเริ่มกลางเดือน พ.ค.
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผุ้อำนวยการ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีจังหวัดใดสามารถเข้าใกล้ การประกาศให้โควิด – 19 เข้าสู่การกลายเป็นโรค ประจำถิ่น แม้แต่จังหวัดเดียว
เงื่อนไขสำคัญของการเป็นโรคประจำถิ่น ต้องประกอบไปด้วย
- พื้นที่นั้นสถานการณ์การติดเชื้อต้องทรงตัว ไม่ได้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
- พื้นที่นั้นต้องมีการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 เกิน 60% ของจำนวนประชากร ในส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องรับวัคซีนเข็ม 1 เกิน 80% และเข็มกระตุ้นเกิน 60%
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า หากจังหวัดใดผ่านเงื่อนไขนี้ จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการที่ ศบค. กำหนด คือ การทำในลักษณะ ‘แซนด์บ็อกซ์’ หรือ แผนพร้อมปฏิบติ เพื่อเข้าสู่การเป็นโรค ประจำถิ่น ก่อนจะนำเสนอต่อ ศปก.สธ. และเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ประมาณกลางเดือนพฤภาคม น่าจะมีการทดลองทำตามแผนการเข้าสู่การเป็นโรค ประจำถิ่นในแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ แผนที่จัดทำขึ้นจะต้องใช้ได้จริง เนื่องจากจะต้องเปิดให้ประชาชนทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ นั่นหมายถึง จะไม่มีการสวมหน้ากากอนามัยด้วย
แผนการเสนอเข้าสู่โรค ประจำถิ่น มีส่วนประกอบด้งนี้
- ให้ผู้ประกอบการจัดทำแผนรับมือกับสถานการณ์โรคที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องของการกลายพันธุ์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์จริง
- มีหน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบที่ชัดเจน เพื่อติดตามกำกับผู้ประกอบการอีกที เช่นการปิดเปิดสถานประกอบการ ผับบาร์ ไม่ใช่เปิดเกินเวลา
- ประชาชนต้องร่วมสังเกตการณ์ ติดตามกับมาตรการต่างๆ และแจ้งเบาะแส หากพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามแผน
ทั้ง 3 ส่วน จะต้องตรวจสอบกันเอง เพื่อให้การทดลองเปิดกิจกรรมกิจการต่างๆ มีความรัดกุม พร้อมการเข้าสู่การเป็นโรค ประจำถิ่น ในวันที่ 1 ก.ค.65
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทางเลือกผู้ป่วยสีเขียว เจอ แจก จบ ผ่านแอป SPRING UP พบหมอออนไลน์-ส่งยาถึงบ้าน
- แจงขั้นตอน เดินทางเข้าไทย ทางอากาศ นักท่องเที่ยวต้องทำอย่างไร เริ่มลงทะเบียน 29 เม.ย. นี้
- อนามัยโพล ชี้ ‘กลัวผลข้างเคียง’ ทำ ‘ผู้สูงอายุ’ ไม่กล้าไม่ฉีดวัคซีน และ ฉีดไม่ครบ