เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-“น.ต.ศิธา ทิวารี” ลงพื้นที่หาเสียง สำรวจการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ที่เป็นการเดินทางสุดฮิตของชีวิตมนุษย์เงินเดือนในกทม. ระบุ ค่าใช้จ่ายสูงมาก ประกาศนโยบายลดราคาค่า “รถไฟฟ้า” ลง ให้อยู่ที่ 15% ไม่เกิน 20% ของรายได้ เพื่อให้เป็นรถไฟฟ้าของมวลชนอย่างแท้จริง
วันนี้ (17 เม.ย.) น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก น.ต.ศิธา ทิวารี – Sita Divari เล่าถึงการลงพื้นที่หาเสียง โดยระบุว่า
วันนี้ ผมและท่านประภัสร์ ชวนทีมคนรุ่นใหม่ไทยสร้างไทย มาประชันความเร็วในการเดินทางจากชานเมือง สู่ใจกลางเมือง โดยพวกเราแบ่งเป็น 3 ทีม คือ ทีมรถไฟฟ้า ทีมรถเมล์ และทีมแท็กซี่
ทุกทีมเริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง และจุดหมายปลายทางคือเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อสำรวจการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ที่เป็นการเดินทางสุดฮิตของชีวิตมนุษย์เงินเดือนในกทม.
จากการสำรวจการเดินทางในวันนี้จากทีมรถไฟฟ้า ผมคิดว่าปัญหาหลักของการเดินทางของพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ คือเ รื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เมื่อเทียบกับรายได้
โดยเฉพาะระบบรางสาธารณะ ที่จริง ๆ แล้ว ควรเป็นทางเลือกที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด แต่กลับมีค่าเดินทางที่สูงมาก จึงทำให้คนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ที่สามารถใช้ได้ เพราะต้องต่อรถไฟฟ้าหลายต่อ อย่างเช่นผมในวันนี้ หากต้องเข้ามาทำงานในตัวเมือง ก็จะมีค่าใช้จ่ายไปกลับที่ 170 บาท/ต่อวัน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเกินไปสำหรับชีวิตมนุษย์เงินเดือน
จากการเปรียบเทียบการเดินทางของทั้ง 3 รูปแบบ พบว่า การเดินทางด้วยแท็กซี่รวดเร็วสุด แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูง และการเดินทางด้วยรถเมล์ และรถไฟฟ้า ใช้เวลาพอ ๆ กันคือประมาณ 1ชั่วโมงเศษ แต่ต้องเดินทางหลายต่อ โดยรถไฟฟ้าเดินทาง 3 ต่อ ส่วนรถเมล์จากสนามบินเดินทางทั้งสิ้น 2 ต่อ
พรรคไทยสร้างไทยเล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงมีนโยบายที่จะปรับลดราคารถไฟฟ้าลง เพื่อให้เป็นรถไฟฟ้าของมวลชนอย่างแท้จริง โดยลดค่าโดยสารให้อยู่ที่ 15% ไม่เกิน 20% ต่อรายได้ของประชาชน เพื่อให้พี่น้องเข้าถึงขนส่งมวลชนระบบรางได้
เพราะถ้าหากค่าโดยสารรถไฟฟ้ามีราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้ จะทำให้ลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน รวมถึงมลพิษก็จะลดลง และที่สำคัญพลังงานที่นำเข้าอย่างน้ำมันก็จะลดลงด้วย ดังนั้น จึงไม่ควรมองเฉพาะผลตอบแทนทางการเงิน แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น
วิธีคิดของขนส่งสาธารณะระบบรางทั่วโลก คือประชาชนทุกระดับต้องสามารถเข้าถึงได้ เพราะการก่อเกิดของรถไฟฟ้าไทย ก็ใช้วิธีคิดตามชื่อขององค์กรคือ “การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสาธารณะ” แต่ทำไปทำมามวลชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ตามชื่อองค์กรกลับไม่ได้ใช้บริการ แต่กลับเป็นคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น กลายเป็นมาเน้นผลตอบแทนทางการเงิน มากกว่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น ผมจึงมีนโยบาย และความปราถนาที่ต้องการทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง และสะดวกมากที่สุด ผมและพรรคไทยสร้างไทยจะเข้ามาดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในส่วนนี้อย่างแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
