Politics

น่าห่วง เด็ก 5-11 ปี ติดเชื้อเพิ่ม โอไมครอน กระตุ้นโรคประจำตัว ให้อาการรุนแรงขึ้น

เด็กวัย 5-11 ปี ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อย่าประมาทโอไมครอน แม้จะไม่แสดงอาการ แต่กระตุ้นโรคประจำตัว ให้อาการรุนแรงขึ้น

กรมควบคุมโรค ได้โพสต์ข้อมูล จากองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ในหัวข้อ เด็กเล็กมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด สายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ ข้อความว่า

โอไมครอน

วัคซีนต้านโควิด 19 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิตในผู้ใหญ่ และล่าสุดรวมถึงเด็กอายุ 11 ปีขึ้นไป เมื่อประชากรในกลุ่มอายุนี้ได้รับวัคซีนมากขึ้น

ประเด็นที่เรากำลังสนใจในตอนนี้ก็คือ การฉีดวัคซีนให้กลุ่มประชากรที่อายุน้อยลง คือเด็กวัย 5-11 ปี เด็กกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับวัคซีนหรือไม่ และจะปลอดภัยไหม

โอไมครอน แพร่เชื้อไว หลบภูมิเก่ง ทำนายว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 40% ของประชาชนบางกลุ่มจะติดเชื้อ รวมถึงเด็กด้วย

ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้ติดเชื้อคนหนึ่งจะแพร่เชื้อ และทำให้อีกผู้หนึ่งติดเชื้อ (หรือที่เรียกว่า serial interval) ของสายพันธุ์โอไมครอนนั้น สั้นกว่าสายพันธุ์เดลตาร้อยละ 33 และความเป็นไปได้ของการติดเชื้อ (secondary attack rate) ก็สูงกว่าเดลตา 2 เท่า

เรายังพบว่าสายพันธุ์โอไมครอน สามารถหลบกลไกภูมิคุ้มกันได้เก่งขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำในผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อนแล้ว (สูงกว่าเดลตา 5.4 เท่า) และทำให้เกิดการติดเชื้อในผู้ที่รับวัคซีนแล้ว (breakthrough infection)

ซึ่งหมายความว่า โอไมครอนแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น กระทบคนจำนวนมากกว่า และเร็วกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ปิด และไม่มีการระบายอากาศ เช่น ในบ้าน (โอไมครอนมีอัตราการแพร่เชื้อในบ้านสูงกว่าเดลตา 2.9 เท่า)

ด้วยความเร็วของการแพร่ระบาดนี้ มีการทำนายว่าร้อยละ 40 ของประชากรบางกลุ่ม จะติดเชื้อด้วยสายพันธุ์โอไมครอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงเด็ก ๆ ด้วย

โอไมครอน

ยกเคสต่างประเทศ เด็กติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเสี่ยงจะมีอาการรุนแรง จากโรคประจำตัว

เด็กอายุ 5-11 ปี กำลังติดเชื้อโควิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งสายพันธุ์โอไมครอนระบาดหนักในสหราชอาณาจักร พบว่าอัตราการเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นสูงสุดในกลุ่มเด็กอายุ 5 ปี ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย แม้ว่าร้อยละ 12.7 จะต้องให้ออกซิเจน

ในนิวยอร์ก ช่วงต้นเดือนมกราคม กลุ่มประชากรที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือเด็กวัย 5-11 ปีที่ร้อยละ 465 และอันดับ 1 คือเด็กอายุ 12-18 ปีที่ร้อยละ 940 ในช่วงเวลาเดียวกัน กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรเด็ก (ร้อยละ 54) ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในนิวยอร์ก ไม่ได้มีโรคประจำตัว โดยที่ 2 ใน 3 (ร้อยละ 64) แสดงอาการของโควิด เกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 47) เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่โควิด

ในประเทศแอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา รายงานว่า ในผู้ติดเชื้อที่เข้าโรงพยาบาลรวมถึงกลุ่มที่อายุน้อยนั้น การติดเชื้อโควิดเป็นเพียงอาการร่วม หมายความว่า ผู้ป่วยปรากฏอาการของโควิด 19 แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาล

นี่แสดงให้เห็นว่า เด็กมีความเสี่ยงจากโควิด-19 และมีโอกาสที่ความเสี่ยงนั้นจะร้ายแรง อาจต้องใช้ออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ และโควิดอาจกระตุ้นให้อาการป่วยเรื้อรังที่มีอยู่เดิมแย่ลง หรือก่อให้เกิดอาการป่วยเฉียบพลัน

โอไมครอน

ครอบครัวไทย เสี่ยงสูงต่อการได้รับเชื้อ โดยเฉพาะเด็กป่วยจากโรคที่มีอยู่เดิม จะถูกกระตุ้นให้รุนแรงขึ้น

ในประเทศไทย เราพบสายพันธุ์โอไมครอนแล้วใน 77 จังหวัด และแม้ว่าประชากรวัยผู้ใหญ่และเด็กวัย 11-17 ปี จะได้รับวัคซีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในระดับประเทศ แม้คนที่ยังไม่ได้วัคซีนเป็นประชากรส่วนน้อย แต่ก็มีมากถึง 31% ของประชากร ที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มที่สอง และความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนในจังหวัดต่าง ๆ ยังคงมีอยู่สูง ตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปีเสียอีก เนื่องจากการติดเชื้อโอไมครอนมักไม่แสดงอาการ เราจึงมักไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ

ซึ่งหมายความว่าโควิด 19 จะยังคงเป็นความเสี่ยงสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวในทุกกลุ่มอายุต่อไป และสถานการณ์ก็แย่ลงไปอีก เนื่องจากโอไมครอนแพร่ระบาดได้ง่าย และลักษณะครัวเรือนของไทยที่คนหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ด้วยกัน

ดังนั้นแม้เด็กส่วนใหญ่จะไม่มีอาการป่วยแม้จะติดเชื้อ แต่พวกเขาก็สามารถแพร่เชื้อไปสู่บุคคลกลุ่มเสี่ยง หรือสมาชิกครอบครัวได้ เด็กบางคนก็อาจป่วยหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากติดโควิด-19 โดยตรง หรือเนื่องจากอาการป่วยจากโรคที่มีอยู่เดิม ถูกกระตุ้นให้แรงขึ้น เช่นเดียวกับผู้ใหญ่และวัยรุ่น เด็กก็มีความเสี่ยงจากโควิด 19 ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo