รัฐบาลเร่งสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนป้องกัน ‘โรคอุบัติใหม่’ ผ่านยุทธศาสตร์ 5 ปี งบ 14,326.54 ล้านบาท ผุด 4 ยุทธศาสตร์ 11 แผนงาน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด – 19 มากว่า 2 ปี รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการมีแผนสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันประชาชนจากโรคอุบัติใหม่ ผ่านโครงการต่าง ๆ ซึ่งร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2566 – 2570
ร่างแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนฯ จะเป็นแผนยุทธศาสตร์ ฉบับที่ 2 ที่เข้ามารับช่วงต่อจากฉบับที่ 1 ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2565 ซึ่งจะเป็นกรอบในการขับเคลื่อน ผลักดันการพัฒนาสู่ความมั่นคงด้านวัคซีนในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570)
มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นโยบายและแผนพัฒนาระดับชาติ เช่น กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนยุทธศาสตร์ สธ. 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579 (ร่าง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12
ทั้งนี้ ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ระยะเวลาการดำเนินงาน 5 ปี วงเงินงบประมาณรวม 14,326.54 ล้านบาท
4 ยุทธศาสตร์ 11 แผนงาน 67 โครงการ
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : การพัฒนาระบบและบริหารจัดการงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ให้มีประสิทธิภาพทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน จำนวน 15 โครงการ อาทิ โครงการสำรองวัคซีนรองรับการระบาด โครงการรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคหัดและหัดเยอรมัน (MR) ในกลุ่มเสี่ยง โครงการพัฒนา Big Data ฐานข้อมูลกลางการให้บริการวัคซีนและระบบ PHR ข้อมูลการรับบริการวัคซีนรายบุคคล โครงการพัฒนาระบบข้อมูลและบริหารจัดการวัคซีน งบประมาณ 2,889.76 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : การส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยพัฒนา และอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนอย่างครบวงจร จำนวน 26 โครงการ อาทิ โครงการการพัฒนา adenoviral vector platform สำหรับการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้นแบบ โครงการการพัฒนาเทคโนโลยีฐานสำหรับพัฒนาต้นแบบวัคซีนจาก Viral vectorเพื่อตอบสนองต่อโรคอุบัติใหม่
โครงการการพัฒนาต้นแบบวัคซีนเด็งกี่ (วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก (Dengue Vaccine)] เพื่อทดสอบในมนุษย์ การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อโรต้า โครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสำหรับสัตว์ โครงการการจัดตั้งโรงงานโดยใช้เทคโนโลยีการใช้เซลล์เพาะเลี้ยงในระดับต้นแบบและระดับอุตสาหกรรม โครงการส่งเสริมสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนที่ผลิตในประเทศ งบประมาณ 9,911.38 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 3 : การพัฒนาศักยภาพบุคลากร รองรับภารกิจความมั่นคงด้านวัคซีน จำนวน 23 โครงการ อาทิ โครงการการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรด้านวัคซีนอย่างครบวงจร โครงการสร้างความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยวัคซีนทางคลินิก โครงการการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนผ่านเครือข่ายความร่วมมือ งบประมาณ 315.8930 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : เสริมสร้างขีดความสามารถ ขององค์กรภาคีเครือข่ายด้านวัคซีนของประเทศ จำนวน 3 โครงการ อาทิ โครงการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีน โดยความร่วมมือกับเครือข่ายด้านวัคซีน โครงการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการวิจัย เพื่อพัฒนาวัคซีน การรักษา การวินิจฉัย สำหรับโรคอุบัติใหม่และตอบโต้อาวุธชีวภาพ เพื่อความมั่นคงของประเทศ งบประมาณ 1,209.5 บาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดย สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จะทำหน้าที่ติดตามและประเมินผล ความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนฯ ฉบับที่ 2 เป็นรายปี พร้อมจัดทำข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ต่อความสำเร็จของการดำเนินงาน ที่ไม่บรรลุผลตามเป้าหมาย
รวมทั้ง สรุปผลการดำเนินงาน ภายหลังจากสิ้นสุดแผนระยะ 5 ปี และประเมินผลกระทบในภาพรวม และรายงานผลให้ ครม. ทราบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- พร้อมฉีด ‘เข็มบูสเตอร์’ ให้ครูและนักเรียน 2.5 ล้านคน รับเปิดเทอม
- หมอมนูญ เกาหลีใต้เทียบไทย เสียชีวิตน้อย ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุไทย 2.1 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีน
- หมอประสิทธิ์ ชี้ วัดดวง ‘สงกรานต์’ ตัวบ่งชี้ โควิดเป็นโรคประจำถิ่น หรือไม่??