Politics

เงินกู้รัฐบาล 1.5 ล้านล้าน เหลือแค่ 7 หมื่นล้าน! พร้อมตรึงดีเซลถึงสิ้นเดือนนี้

เงินกู้รัฐบาล 1.5 ล้านล้าน เหลือแค่ 7 หมื่นล้าน “บิ๊กตู่” แจงส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเยียวยา “โควิด” พร้อมตรึงดีเซลถึงสิ้นเดือนนี้ แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดอาจตรึงต่อ

รายงานข่าวจาก ทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี ใช้เวลาการประชุมค่อนข้างรวดเร็ว เสร็จสิ้นการประชุมตั้งแต่ยังไม่ถึง 13.00 น. ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ในช่วงพักเบรกเดินทักทายรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการรอบห้องประชุมถึง 3 รอบ

เงินกู้รัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม. ครั้งนี้ใช้เวลาหารือนานที่สุดคือ เรื่องพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยช่วงหนึ่งผู้อำนวยสำนักงานกองทุนน้ำมันฯ ระบุว่า ราคาน้ำมันขณะนี้ผันผวนหนักมากในรอบ 13-14 ปี มีเหตุมาจากสงครามดังกล่าว

ส่วนการชดเชยน้ำมันดีเซลในปัจจุบันชดเชยอยู่ที่ลิตรละ 7 บาท แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงไปถึง 135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะต้องชดเชยลิตรละ 8 บาท ถ้าสถานการณ์น้ำมันยังเป็นอยู่อย่างนี้ ราคานี้จะตรึงได้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม แต่ถ้าราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจะตรึงต่อได้ถึงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม เงินที่อุดหนุนดีเซลตรงนี้ส่วนหนึ่งมาจากเบนซิน

เงินกู้รัฐบาล

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้พูดคุยถึงกรอบเงินของรัฐบาลที่เคยกู้มาก่อนหน้านี้ รวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านล้านบาทว่า ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 7 หมื่นล้าน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับที่ประชุมว่า เงินกู้ส่วนใหญ่ใช้ไปกับเรื่องสุขภาพ การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ฝั่งตรงข้ามชอบพูดว่ารัฐบาลใช้เงินผิดประเภท ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์

“อยากให้ช่วยไปชี้แจงทำความเข้าใจด้วยว่าเราเอาไปใช้อะไรบ้าง และขอเน้นย้ำเรื่องการจัดซื้อให้มีความโปร่ง อย่างเช่น เรื่องการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ เพราะชีวิตประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะละเลยชีวิตประชาชนไม่ได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo