Politics

จับตา ‘โอไมครอนกลายพันธุ์’ BA.2.2 กำลังมา โรคประจำถิ่นอาจเป็นแค่ฝัน

‘หมอเฉลิมชัย’ จับตา ‘โอไมครอนกลายพันธุ์’ BA.2.2 กำลังมา เตือนให้ระวังผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงและอังกฤษ โรคประจำถิ่นอาจเป็นแค่ฝัน

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธาน กรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” โดยระบุว่า ไวรัสโอไมครอน (Omicron) กลายพันธุ์อีกครั้งแล้ว  เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ทำให้เกิดปัญหาอย่างมากที่ฮ่องกงในขณะนี้

โอไมครอนกลายพันธุ์

นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิดซึ่งพบเคสแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ด้วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อู่ฮั่น (Clade S) ส่งผลทำให้เกิดการระบาดระลอกที่ 1 ของไทย ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2563 ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 4000 ราย เสียชีวิต 60 ราย

ต่อมาไทยก็เกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในช่วงธันวาคม 2563 ถึงมีนาคม 2564 โดยยังคงเป็นไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น (Clade GH : B.1.36.16) ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 24,863 ราย เสียชีวิต 34 ราย

ด้วยเหตุที่ไวรัสตระกูลโคโรนา เป็นไวรัสสารพันธุกรรมเดี่ยว(RNA) มีการกลายพันธุ์ได้ง่ายโดยธรรมชาติ จึงเกิดการกลายพันธุ์เป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่า (Clade GRV : B.1.1.7) และต่อมาเป็นไวรัสสายพันธุ์เดลตา(Clade GK : B.1.617.2) จนเกิดการระบาดใหญ่ระลอกที่ 3 ของประเทศไทย ตั้งแต่เมษายนถึงธันวาคม 2564 ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,194,572 ราย เสียชีวิต 21,604 ราย

โอไมครอนกลายพันธุ์

และในลำดับสุดท้ายล่าสุด ก็มีการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาลำดับที่ 7 ที่ก่อโรคโควิด-19 (Covid-19) เป็นสายพันธุ์โอไมครอน(Clade GRA : B.1.1.529) ส่งผลให้เกิดการระบาดระลอกใหญ่อีกครั้ง นับเป็นระลอกที่ 4 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา

จนถึงขณะนี้ (11 มีนาคม 2565) มีผู้ติดเชื้อรวม 1,595,460 ราย เป็นผู้ติดเชื้อแบบ PCR 913,214 ราย และผู้ติดเชื้อเข้าข่ายแบบ ATK 682,246 ราย มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 1880 ราย

ไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนซึ่งกำลังเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดระลอกที่ 4 ในประเทศไทย มีความสามารถในการแพร่ระบาดที่เร็วกว่าเดลตาถึง 4 เท่า

อย่างไรก็ตาม มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยไปอีก 3 ชนิดด้วยกัน คือ BA.1 BA.2 BA.3 โดยสายพันธุ์ย่อยที่ 1 เป็นสายพันธุ์หลัก

และต่อมามีสายพันธุ์ย่อยที่ 2 ซึ่งแพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยที่ 1 อีก 30-40% และขณะนี้ประเทศไทยพบแล้วทั้งสองสายพันธุ์ย่อย และกำลังพบสายพันธุ์ย่อยที่ 2 มากขึ้นเป็นลำดับ

โอไมครอนกลายพันธุ์

โอไมครอนกลายพันธุ์ BA.2.2 

โดยหลักวิชาการเกี่ยวกับเรื่องไวรัส ทราบกันดีว่า ที่ใดมีการติดเชื้อมากหรือไวรัสมีการแบ่งตัวมาก ก็จะมีการกลายพันธุ์มาก จนสามารถเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์หลัก หรือสายพันธุ์ย่อยก็ตาม

ในขณะนี้ที่ฮ่องกง กำลังมีการระบาดของโควิดอย่างมาก พบตัวเลขสถิติผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีการตรวจพบสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแยกออกมาจากสายพันธุ์ย่อยที่ 2 จึงเรียกชื่อว่า BA.2.2

“โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 7 วันของฮ่องกงสูงเป็น 17.2 เท่าของประเทศไทยคือ 5425 ต่อล้านประชากร เทียบกับ 315 ต่อล้านประชากร และผู้เสียชีวิตที่มากกว่าประเทศไทยถึง 35.3 เท่าคือ เสียชีวิต 30 รายต่อล้านประชากร ของไทยพบ 0.85 รายต่อล้านประชากร จึงมีการสันนิษฐานว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 อาจเป็นเหตุทำให้เกิดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่ฮ่องกง”

เพราะที่ฮ่องกงและประเทศไทยต่างก็เป็นไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนด้วยกัน  แต่ของฮ่องกงขณะนี้เป็นสายพันธุ์ BA.2.2 ในขณะที่ไทยยังไม่พบ

ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ในฮ่องกง ก็คงเป็นเรื่องที่กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนค่อนข้างน้อยร่วมด้วย

โอไมครอนกลายพันธุ์

จับตาผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกง และ อังกฤษ โรคประจำถิ่นอาจเป็นแค่ฝัน

ไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.2.2 มีการกลายพันธุ์ตรงตำแหน่งหนามแหลมที่กรดอะมิโนตำแหน่งที่ 1221 โดยเปลี่ยนจาก Isoleucine เป็น Threonine

กรณีดังกล่าวที่ฮ่องกง จึงทำให้โลกของเรายังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโควิดต่อเนื่องกันไป ด้วยไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นสายพันธุ์หลัก หรืออาจจะเป็นสายพันธุ์ย่อยจากธรรมชาติ

ประเทศไทยเรา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนการคาดการณ์ที่จะมีสถานการณ์เบาบางลงหรือเป็นโรคประจำถิ่น ก็ดูเหมือนจะยังหาความชัดเจนในขณะนี้ได้ลำบาก

คงจะต้องระมัดระวัง ช่วยกันดูแลป้องกันการเข้ามาของไวรัสสายพันธุ์ BA.2.2 โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากฮ่องกงและอังกฤษกันต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo