Politics

‘ศักดิ์สยาม’ แจงละเอียดศึกซักฟอก ยัน ‘คมนาคม’ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ลั่นไม่ซ้ำรอย ‘ค่าโง่’

“ศักดิ์สยาม” แจงยิบ คมนาคมไร้รอยต่อ เชื่อมไทย เชื่อมโลก ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ย้ำ ทุกโครงการยึดกฎหมาย รอบคอบ ไม่มีซ้ำรอย “ค่าโง่” เหมือนอดีต

วันนี้ (18 ก.พ.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152  ซึ่งได้มีการอภิปรายการบริหารราชการแผ่นดิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม

นายศักดิ์สยาม ระบุว่า การปฏิบัติงานของกระทรวงคมนาคม เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยึดหลักกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล จึงขอให้สบายใจได้ว่า ทุกขั้นตอนของกระทรวงคมนาคม ยึดหลักประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ

พร้อมกันนี้ ยังได้ให้รายละเอียดถึงภาพรวมการดำเนินงานของกระทรวง โดยเฉพาะการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงทั้งภายในประเทศไทย และเชื่อมโยงโลก

sakk

คมนาคม ถือเป็นกระทรวงหลัก ที่ดูแลรับผิดชอบโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่แม้ว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยจะเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 แต่กระทรวงก็ไม่ได้หยุดทำงาน เพราะการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และการขนส่ง จะทำให้ไทยสามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ได้

ที่ผ่านมา กระทรวงได้การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น การแก้ปัญหาการจราจรบนถนนพระรามสอง ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการใดที่ติดปัญหาและอุปสรรค จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน และเตรียมการดำเนินการไว้ ทั้งหมดยึดหลักสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เสียค่าใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล บูรณาการทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง ทางอากาศ เข้าด้วยกัน

นายศักดิ์สยาม ยังใด้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายเสนอแนะ ดังนี้

  • การเดินทางของคนในเมือง “ระบบตั๋วร่วม” ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่เพื่อนสมาชิกระบุว่า มีการดำเนินการล่าช้า

โครงการของกระทรวงคมนาคม เป็นโครงการขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำได้ทันใจ เพราะมีกฎหมาย และระเบียบที่ต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ

นอกจากนั้น ต้องตามแก้ปัญหาในอดีต เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น กรมการขนส่งทางราง มีการตั้งขึ้นสำเร็จในรัฐบาลนี้ แต่การดำเนินการดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีสัญญาสัมปทานไปแล้วหลายเส้นทาง

เมื่อยังไม่มีกฎหมาย จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเจรจาต่อรองแต่เพียงอย่างเดียว จึงไม่สามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้ทันที พร้อมย้ำว่า ระบบตั๋วร่วมนี้พยายามหลีกเลี่ยงปัญหาค่าโง่ ซึ่งตนยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก

อย่างไรก็ตาม คมนาคมได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … คาดว่าจะเสนอ ครม. ภายในกลางปี 2565 มีการจัดให้มีระบบฟีดเดอร์ ทั้งรถเมล์ EV และเรือ EV โดย ขสมก.จัดหารถ EV-Bus 2,511 คัน และดำเนินโครงการจ้างเอกชนเดินรถ 1,500 คันแบบพลังงานสะอาด มีแผนการเชื่อมต่อการเดินทาง ล้อ-ราง-เรือ W-Map จำนวน 50 จุด จะทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

S 58130561

  •  การคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงระหว่างเมือง

กระทรวงคมนาคม เร่งรัดระบบรถไฟทางคู่ เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า โดยจะสามารถลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศ รถไฟทางคู่นี้ จะเชื่อมโยงจากด้านตะวันออกสู่ตะวันตก จากภาคเหนือสู่ภาคใต้ และเชื่อมต่อระบบขนส่งทางรางไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งยังมีแผนพัฒนาท่าเรือบก เพื่อขนตู้คอนเทนเนอร์ไปสู่รถไฟ โดยสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร สนข.จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือทางบกแล้วเสร็จ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย กำลังทำการศึกษาจัดทำรายงาน PPP ตาม พ.ร.บ. เพื่อจะทำการลงทุนระหว่างภาครัฐ และเอกชน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ระบบการขนส่งทางรางมากขึ้น

  • การเตรียมการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทย-ลาว-จีน แบบไร้รอยต่อ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานดำเนินการ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวงเป็นองค์ประกอบ เพื่อบูรณาการตามแผนงาน

อย่างไรก็ตาม รถไฟของประเทศไทยสามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟจีน-ลาว ได้อยู่แล้ว มีการเชื่อมโยงขนส่งสินค้าทุกวัน โครงสร้างที่มีอยู่ในปัจจุบัน สามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้

S 58130566

ดังนั้น ความกังวลเรื่องการเชื่อมต่อเหล่านี้ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา มีความพร้อมในฝั่งดีมานด์ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทางฝั่งลาวยังไม่เปิดให้คนเข้าไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง

เมื่อลาวเปิดพรมแดนเมื่อใด คมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปประสานงานทันที เพื่อให้ประชาชนของทั้ง 3 ประเทศ สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้รวมถึงสินค้าทั้งหมด

ส่วนการเปลี่ยนถ่ายสินค้า วางพื้นที่ไว้ที่ย่านนาทา จังหวัดหนองคาย และจะดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ แห่งที่ 6 ให้สามารถรองรับรถยนต์ รถบรรทุก และรถไฟ ซึ่งขณะนี้ได้ข้อตกลงว่าฝ่ายไทย และลาวจะออกค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย

สำหรับกรณีที่นายไชยา พรหมา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงการวางแผนการเชื่อมต่อนั้น ทางกระทรวงดำเนินการไว้หมดแล้ว และยังวางแผนเชื่อมต่อโลจิสติกส์ฮับ ที่สถานีนาทา และก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งจะเชื่อมเส้นทางไปยังนิคมอุตสาหกรรม ที่ จังหวัดอุดรธานีด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อให้ที่ได้ประโยชน์สูงสุด

นายศักดิ์สยาม เปิดเผยด้วยว่า กระทรวงคมนาคมได้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อยกระดับการคมนาคมขนส่ง เช่น ระบบ M-Flow นำร่องแล้ว ที่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เพิ่มความรวดเร็วในการเดินทางผ่านด่าน ซึ่งเตรียมขยายผลไปยังโครงการของการทางพิเศษ และมอเตอร์เวย์ ในที่ต่าง ๆ ต่อไป

อีกทั้ง การนำระบบ AI มาใช้ในท่าอากาศยาน เช่น มีระบบ Auto Bag-drop ระบบ One ID แอพพลิเคชั่น “สวัสดี” ของ AOT รองรับ New Normal เป็นการเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานหลัก นำมาสู่การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

ท้ายสุด นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมในปี 2565 ว่า จะมีการดำเนินการทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมเม็ดเงินในการลงทุน 1.4 ล้านล้านบาท มีการลงนามในสัญญาผูกพันแล้วบางส่วน ซึ่งจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ จะทำให้จีดีพีของประเทศโตขึ้นตามที่คาดไว้กว่า 1-3% หรือ 4 แสนล้านบาทต่อปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo