Politics

‘บิ๊กตู่’ ชูกำปั้นยังสู้! ยันยังไม่คิดปรับครม. เมินแพ้เลือกตั้งซ่อม รอดูเลือกตั้งใหญ่

“บิ๊กตู่” ชูกำปั้นยังสู้! ยันยังไม่คิดปรับคคณะรัฐมนตรี เมินแพ้เลือกตั้งซ่อม แนะรอดูเลือกตั้งใหญ่ พร้อมเหน็บ “ธรรมนัส” บอกไม่ใช่คนเจ้าคารี้สีคารม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นครั้งแรกภายหลังกักตัวครบ 7 วัน จากการเดินทางกลับจากการเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย โดยได้ทักทายกับสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “สวัสดีนะจ๊ะ ตรุษจีน ปีใหม่ ประเทศไทยก็ปีใหม่ได้ตลอดอยู่แล้ว เพราะเรามีคนหลายเชื้อชาติในประเทศไทย”

บิ๊กตู่

เมื่อถามว่าในฐานะผู้นำรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีคาดการณ์และการวิเคราะห์เรื่องการยุบสภาขณะนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ตนต้องติดตามสถานการณ์ ปรึกษาหารือกับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่านายกฯ ตัดสินใจเพียงผู้เดียว มันต้องตัดสินใจบนพื้นฐานเอาข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ ยังไม่มีอะไร สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้รัฐบาลต้องการทำงานให้ได้ บ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องทำงานให้ได้ไปก่อนการเมืองก็ต้องไปว่าทางการเมืองต่อไป สิ่งที่ต้องเผชิญในวันนี้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ก็เตรียมความพร้อมในการชี้แจงก็แล้วกัน หลาย ๆ อย่างได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งตนให้เกียรติในการที่จะมีการอภิปราย

เมื่อถามย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจและการรับมือจากฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรในญัตติ เป็นการถามรายวันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ตอนนี้คิดว่าเสียงในรัฐบาลมีเพียงพอหรือไม่ ต้องดึงพรรคใหม่มาร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่แยกออกไป 21 เสียง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็อยู่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เพราะเขายังยืนยันว่าร่วมรัฐบาลอยู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบอกมาอย่างนั้น และยืนยันว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับครม. สถานการณ์ยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น

บิ๊กตู่

เมื่อถามว่าสถานการเมืองในขณะนี้มีความจำเป็นต้องไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น อย่างที่บอกแล้วไง อะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ที่จะเลวร้ายจนกระทั่งมันแย่ไปทั้งหมด อย่างที่บอกไปแล้ว ก็คือการเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อม และตนก็ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจอยู่ ไม่เป็นไรหรอก ไว้คอยดูเมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ก็ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันเมื่อถึงตอนนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กับการเลือกตั้งใหญ่อะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอดูทั้งเรื่องกฎหมาย สถานการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ก็จะเป็นส่วนประกอบ แต่เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็คือส่วนของ กทม. ตนบอกแล้วว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม พูดมาตั้งนานแล้ว และเป็นเรื่องของการเตรียมการของ กกต.และกระทรวงมหาดไทย ก็มีการเตรียมการทุกอย่าง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หรือมีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดหมายก็เป็นไปตามนั้น

ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอรัฐธรรมนูญในเรื่องของกฎหมายลูก ซึ่งการพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ก็ไม่ได้มีอะไร เหลือเพียงขั้นตอนการดำเนินการ ก็หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นก็แล้วกัน ทุกอย่างก็จะเดินไปตามเป้าหมายตามที่กำหนดไว้เดิม

บิ๊กตู่

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ยืนยันจะไม่ยุบสภา ตอนกฎหมายลูกเลือกตั้งยังไม่เสร็จใช่หรือไม่เพื่อให้บัตร 2 ใบตกไป พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่ยืนยัน นอนยันอะไรทั้งสิ้น” ผู้สื่อข่าวไม่ต้องมาตั้งคำถามสมมุติว่าอย่างนั้นอย่างนี้ จะสมมติอะไรนักหนา ถ้าจะให้ประเมินก็มีทั้งตกและไม่ตกมีทั้งได้และไม่ได้ 2 ใบ หรือใบเดียวมันยังไม่ถึงขั้นตอนการพิจารณาของเขาเลย ก็อย่าเพิ่งไปลงความเห็นว่ามันจะตกหรือไม่ตก เราก็ต้องเตรียมความพร้อมไว้ทุก ๆ ด้านว่าจะต้องทำอย่างไร มันมีกระบวนการทำอยู่แล้ว สื่อเข้าใจการเมืองมากกว่านายกฯเสียอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีจากกลุ่ม 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐจริงหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมยังไม่เห็นมีใครขออะไร ยืนยันว่ายังไม่มี และยังไม่อยู่ในแนวทางที่เราปฏิบัติในเวลานี้ ผมบอกแล้วไงว่าผมทำงานก่อน

เมื่อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 9 กทม. และการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้มาตลอด เป็นเพราะกระแสความนิยมรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงใช่หรือไม่ และเพราะจากการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐเอง นายกฯกล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมเขตก็เป็นเรื่องของการเลือกตั้งซ่อมเขต ต่อไปประเทศไทยเรามีกี่เขต ตามรัฐธรรมนูญใหม่ 400 เขตใช่หรือไม่ จะแพ้เขตสองเขตก็เป็นเรื่องของการแพ้ชนะว่ากันตามความนิยมของประชาชน

บิ๊กตู่

ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะกระแสความนิยมรัฐบาล และชื่อพล.อ.ประยุทธ์อยู่ในช่วงขาลงนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขาลงหรือขาขึ้น ผมก็เหมือนขึ้นบันไดลงบันไดทั้งวันนั่นแหละ มันขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า การเมืองก็คือการเมือง ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐผมก็ให้กำลังใจ ผมให้กำลังใจในการทำงานทุกคน การทำงานไม่ง่ายนักหรอก โดยเฉพาะทางการเมืองในขณะนี้กับทุกพรรคผมก็ยืนยันและทราบดี ผมพยายามทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นไม่มีอะไร ผมยืนยัน ผมพูดกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจกับพล.อ.ประวิตรอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กับใครก็ตามตนก็ให้กำลังใจเสมอ ให้กำลังใจกับทุกคนที่ทำงานร่วมกันตราบใดที่ทำงานร่วมกัน ทำความดีร่วมกัน มันก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะประสานการทำงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างไร เพื่อรักษาเสถียรภาพและเสียงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการประสานงานโดยพรรคการเมือง ซึ่งก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันอยู่แล้ว ซึ่งก็เข้าใจตรงกันว่าเรากำลังทำงานเพื่อประเทศชาติให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติให้ได้เร็วที่สุดก่อน

ส่วนกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า “ศัตรูของศัตรูคือมิตร” จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มตำรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะพูดกล่าวอะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ใช่คนเจ้าคารี้สีคารมอะไรแบบใครทั้งสิ้น ใครพูดอะไรก็ฟังไปก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ มีไม้เด็ดอะไรในมือบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีกระดาษนี่ไง พร้อมชูกระดาษขึ้นมา ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรหรอก มีแต่ความมั่นใจ มีความตั้งใจจริงและทำเพื่อประชาชนประเทศชาติมีแค่นั้น และไม่มีความกังวลอะไร

เมื่อถามว่ามองสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมก็รู้สึกเฉยๆ” สำหรับปัญหาที่มีอยู่กับระยะเวลาของรัฐบาลที่เหลือ ส่วนตัวก็คิดว่าปัญหาจะแก้ในรัฐบาลเดียวไม่ได้ ต้องแก้หลายรัฐบาล ก็ต้องช่วยกันสานต่อไป ใครเป็นรัฐบาลก็ทำต่อกันไปนั่นแหละ วันนี้ตนก็เอาของเก่ามาแก้ได้ตั้งเยอะแล้ววันนี้มันยังไม่เสร็จหรอกประเทศไทย เพราะมันเปลี่ยนแปลงทุกวัน

ทั้งนี้ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ยังสู้หรือไม่ นายกฯ ได้หันมาถามสื่อมวลชนกลับว่าวันนี้วันอะไร ผู้สื่อข่าวตอบว่า วันทหารผ่านศึก จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้ชูกำปั้นมือขวา พร้อมกล่าวว่า “ทหารผ่านศึก” ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ในวันนี้ ได้มีอาการกระแอมไอและสูดน้ำมูกเป็นระยะ ๆ และหันไปพูดกับทีมงานว่า “เจ็บคอเพราะพูดมาก”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo