แม้ปี 2564 สถานการณ์โควิดยังรุนแรงต่อเนื่อง ยอดติดเชื้อในประเทศพุ่งทะลุ 2 ล้านราย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เหล่านักการเมืองมีสติร่วมกันแก้วิกฤติโควิด กลับยังสร้างแรงปะทุให้องศาการเมืองไทยเดือดอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นที่ดูจะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้การเมืองไทยในปี 2564 มากที่สุด คงหนีไม่พ้นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งฟันฉับปลดฟ้าผ่า “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” และ “นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์” พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี
ย้อนไทม์ไลน์ดราม่าเดือด “บิ๊กตู่-ธรรมนัส”
หากย้อนไทม์ไลน์ดราม่าเดือดครั้งนี้ เริ่มจาก ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐบางกลุ่ม ไม่ค่อยพอใจในการทำงานร่วมกับ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเข้าถึงยาก ประสานงานลำบาก ทำให้ “ร.อ.ธรรมนัส” อาสาเป็นตัวกลางดีลกับ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป็อก” เอง พร้อมกับกระแสข่าวดัน “ร.อ.ธรรมนัส” นั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย แทน “บิ๊กป๊อก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องดังกล่าวดูจะไม่เป็นผล ก่อนศึกอภิปรายก็มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า ร.อ.ธรรมนัส พยายามเดินสายล็อบบี้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลให้ลงมติไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรี จนนำไปสู่ความขัดแย้งขึ้นอีกครั้งแม้พี่ใหญ่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเรียกทั้งคู่มาเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล
จากนั้นไม่นาน “ส.ส.เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้ปูดข่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เซ็นคำสั่งปลด “ร.อ.ธรรมนัส” พ้นรัฐมนตรีแล้ว ซึ่ง “ร.อ.ธรรมนัส” ได้ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวพร้อมแถลงข่าวด่วน!! และโชว์หนังสือขอลาออกเอง แต่ดูเหมือนจะไม่ทันได้ลาออก เพราะ “ราชกิจจานุเบกษา” ได้เผยแพร่ประกาศ นายกรัฐมนตรีได้สั่งปลด “ร.อ. ธรรมนัส” และ “นางนฤมล” พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีทันที
สำหรับศึกอภิปรายในครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับความไว้วางใจจาก ส.ส. ในสภาน้อยที่สุด ในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ สร้างร้อยร้าวครั้งใหญ่ให้เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้ง “พี่น้องสุดที่รัก” อย่างบิ๊กป้อมและบิ๊กตู่อีกด้วย
ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก!!
จากกระแสความไม่พอใจ “ร.อ.ธรรมนัส” ใน “พรรคพลังประชารัฐ” ทำให้ พี่ใหญ่อย่าง “บิ๊กป้อม” ดูจะไม่พอใจอย่างมาก โดยระหว่างการประชุมสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อมถึงขั้นกล่าวออกมาว่า “พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานได้ทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นก็เป็นคู่กรณีของเขา ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก ใครอยากมาเป็นก็มาเป็นเลย”
นอกจากคำขู่ดังกล่าวแล้ว ยังมีการรายงานอีกว่า สมาชิกพรรคคนหนึ่งถาม พล.อ.ประวิตร ต่อว่า ถ้ามีการตั้งพรรคใหม่จะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร จึงตอบว่า “ถ้านายกฯ ตั้งพรรคใหม่ กูก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”
คดีล้มล้างการปกครอง
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ “อานนท์ นำภา-ไมค์ ภานุพงศ์-รุ้ง ปนัสยา” แกนนำราษฎร จัดชุมนุมปฏิรูปสถาบันฯ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ขัดรัฐธรรมนูญ
คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ข้อสรุปว่า ความต้องการปฏิรูป กับการล้มล้าง “มีความหมายเดียวกัน” โดยศาลระบุว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย เป็นเสาหลักสำคัญที่จะขาดเสียมิได้ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดังนั้นการกระทำใด ๆ ที่มีเจตนาเพื่อทำลายหรือทำให้สถาบันต้องสิ้นสลายไป ไม่ว่าการพูด เขียน หรือการกระทำต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลเป็นการบ่อนทำลาย ด้อยคุณค่า หรืออ่อนแอลง ย่อมมีเจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
นอกจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญ ยังระบุอีกว่า การประชุมของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งที่งานในธรรมศาสตร์ และในช่วงหลังจากนั้น มีการลบสีน้ำเงินออกจากธงชาติ และมีเจตนาซ่อนเร้นอย่างจะล้มล้างสถาบัน ไม่ใช่การปฏิรูป เป็นการแสดงความเห็นโดยไม่สุจริต
ข้อสรุปคือการกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดของ “อานนท์ นำภา-ไมค์ ระยอง- รุ้ง ปนัสยา” ในการปราศรัยที่ธรรมศาสตร์ คือเจตนาที่จะล้มล้างการปกครองของประเทศนี้ และจากนี้ต่อไป ห้ามมีการวิจารณ์ และพูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีก
“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย ที่จ.ขอนแก่น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้นได้เปิดตัว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งที่ปรึกษาพรรค โดยไฮไลท์ช่วงหนึ่งที่ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นกล่าวบนเวที คือ “ในฐานะลูกของคุณพ่อ ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และท่านปรารถนาอย่างมากที่จะกลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง กลับมากราบผู้มีพระคุณ”
สภาล่ม!! ล่มแล้ว…ล่มอีก
ใครจะคาดคิดว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ในปี 2564 จะเกิดเหตุการณ์ “สภาล่ม” แบบล่มแล้ว ล่มอีก ล่มซ้ำซาก เพราะในปีที่ผ่านสภาล่มถึง 8 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่…) พ.ศ…
- ครั้งที่ 2 วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ระหว่างจะพิจารณาญัตติด่วนแก้โควิด
- ครั้งที่ 3 วันที่ 10 กันยายน 2564 ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ….
- ครั้งที่ 4 วันที่ 17 กันยายน 2564 ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
- ครั้งที่ 5 วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน
- ครั้งที่ 6 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง (ฉบับที่…) พ.ศ….
- ครั้งที่ 7 วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
- ครั้งที่ 8 วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ระหว่างพิจารณารายงานผลพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ
Tony Woodsome : Clubhouse การกลับมาของ “ทักษิณ ชินวัตร”
โทนี วูดซัม (Tony Woodsome) หรือนายทักษิณ ชินวัตร กลับมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในแอพพลิเคชัน Clubhouse การเข้าร่วมห้องสนทนา “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองตรงเน้” สร้างปรากฎการณ์ผู้ร่วมฟังสดมากกว่า 7 หมื่นคน การเคลื่อนไหวครั้งนี้ กลายเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการสนทนากว่า 2 ชั่วโมงถึงยุครุ่งเรืองของพรรคไทยรักไทย หรือการยอมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมวงสนทนาพูดคุยกับ “อดีตนายกรัฐมนตรี” โดยตรง
หลังจากนั้น โทนี วูดซัม ได้มีการสนทนาผ่าน Clubhouse อย่างต่อเนื่อง ด้วยปรากฎการณ์การร่วมฟังของเหล่าแฟนคลับอย่างล้นหลาม และการสนทนาแต่ละครั้งก็สร้างประเด็นและแรงกระเพื่อมทางการเมืองได้ไม่น้อย จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแสดงการไม่พอใจอยู่บ่อยครั้งเมื่อถูกถามถึงเรื่องดังกล่าว จนถึงขั้นสบถออกมาว่า “ไอ้คนผิดกฎหมาย ผิดกฎหมาย ไปฟังมันอยู่ได้”
จับตาสนามเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะออกมายืนยันว่าจะมีการเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ในช่วงกลางปีนี้ จะก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” กันจริง ๆ หรือไม่ แต่ที่ผ่านมาก็เริ่มเห็นการเปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัคร” กันอย่างคึกคัก ทั้งแคนดิเดตตัวเต็งที่ฟาดคะแนนจากทุกโพลอย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่ประกาศตัวพร้อมลงชิงเก้าอี้พ่อเมืองกรุงในนามอิสระ
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัว “ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่เปิดตัวไปได้ไม่กี่วันก็สร้างกระแสดราม่าสนั่นโลกโซเชียล ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังสงวนท่าที “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” หรือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ประกาศชัดไม่ร่วมลงสนาม
นอกจากนั้นยังมีรายชื่ออื่น ๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกมากมาย งานนี้ต้องรอดูว่าวันสมัครชองตำแหน่งจริง จะเหลือกี่คน และใครจะมาวิน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กป้อม’ บ่นเหนื่อย!! หลัง ‘บิ๊กตู่’ แตกหักปลด ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ฟ้าผ่า
- ‘นายกรัฐมนตรี’ ย้อนถามสื่อทำไมต้องคุย ‘ธรรมนัส’ ลั่นเป็นเรื่องของเขา!
- ‘ทักษิณ’ จวกยับ รัฐประหาร 15 ปี ทหาร-ตุลาการ ‘หายนะของชาติ’ ทำประเทศถอยหลัง
