วาทะเด็ดแห่งปี!! เปิด 10 วาทะเด็ด ก่อดราม่าเดือดของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่เอ่ยแต่ละครั้งล้วนจี๊ดใจชาวโซเชียลอย่างหนัก
#TheBangkokInsight รวบรวมวาทะเด็ดแห่งปีตลอดปี 2564 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เอ่ยแต่ละครั้งล้วนจี๊ดใจชาวโซเชียลอย่างหนัก จนก่อกระแสดราม่าหลายรอบ
“ผมสวดมนต์ทุกวัน จึงจะไม่ทำอะไรที่ผิด”
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงกลางที่ประชุมสภาฯ หลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากผลการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว โดยเฉพาะประเด็นเรื่องวัคซีนโควิด โดยระบุว่า ในประเด็นเงินทอนวัคซีน ขอให้ไปหาว่าผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่ใคร ผมยอมรับการตรวจสอบทุกชนิด แม้กระทั่งตอนตัวเองเป็น คสช. ก็มีองค์กรอิสระตรวจสอบ มีเรื่องอะไรมาตัวเองก็สู้และชี้แจงข้อเท็จจริงได้ และยังไม่มีเรื่องหนักหนาสาหัสอะไร…. ผมสวดมนต์ทุกวัน จึงทำให้ตัวเองจะไม่ทำอะไรที่ผิด และขอให้เข้าใจกันด้วย
“นะจ๊ะ”
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอล็อกดาวน์ กทม. โดยการออกมาให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อมวลชนครั้งนั้น มีทีมแพทย์คอยยืนกระซิบเป็นระยะ ๆ และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวคำว่า “นะจ๊ะ” หลายครั้ง และยังแสดงถึงอาการหัวเราะร่าเริงอารมณ์ดีทั้ง ๆ ที่สถานการณ์โควิดของประเทศไทยในขณะนั้นเริ่มวิกฤติ โดยโลกโซเชียลมองว่า ขณะนั้นมีคนติดเชื้อวันละ 3,000-4,000 คน ตายวันละ 20-40 คน คนไม่มีกิน ตกงาน ล้มละลาย แต่นายกกลับแสดงออกถึงความไม่เหมาะสม
“สวดมนต์ไล่พายุ”
นายกรัฐมนตรี กล่าวขณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ. สุโขทัย โดยระบุว่า ปัญหาบ้านเมืองไม่ใช่มีเพียงแค่ตรงนี้ มีหลายที่ด้วยกัน ขณะนี้มีพายุเข้ามา ปีที่แล้วพายุเข้ามา 5 ลูก และนี่เพียงลูกเดียว จึงขอให้ช่วยกันสวดมนต์ อย่าให้พายุเข้ามาอีกเลย พายุลูกเดียวนี่ก็พอแล้ว พร้อมต้องช่วยกันคิดใหม่ว่าวันข้างหน้าจะอยู่กันอย่างไร จะต้องปลูกบ้านอย่างไร จะต้องปลูกบ้าน 2 ชั้นหรือขยับขยายไปอยู่ในที่สูงขึ้น ซึ่งรู้ว่ายากแต่ถ้าตั้งใจฝั่งรัฐบาลพูดบ้าง ก็น่าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง
“แนะเลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว อย่าเพิ่งฆ่า-รอเก็บไข่!”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขณะลงพื้นที่ จ.ยะลา โดยแนะวิธีการจัดการรายได้ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยระบุว่า “ทำอย่างไรจะลดรายจ่ายให้เขาได้ ไม่ต้องไปซื้อพืช ซื้อผัก ซื้อไก่ วันนี้ ถ้าทุกครัวเรือนเลี้ยงไก่สัก 2 ตัว อย่าเพิ่งฆ่ามันก่อน ให้มันโต ให้มันไข่ก่อนนะ ค่อยๆ ดูแลตัวเองอย่างนี้ ค่าใช้จ่ายจะน้อยลง ถ้าเราซื้อทุกอย่างเลยไม่ได้ เป็นไปตามที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ท่านรับสั่งไว้เรื่องความพอเพียง”
“ลุงไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่คนเผด็จการ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างการร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ โดยระบุว่า ผมยินดีรับฟังจากท่าน รับฟังจากพื้นที่ พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข ผมไม่ใช่คนดื้อหรอกครับ ผมจะพูดอะไรไป ผมก็คิดในใจอยู่ตลอดว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ในใจผมคิดตลอด ผมจะทำอะไร ทำได้แค่ไหน การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และถ้าเขาจะให้เราแก้ ก็ต้องถามเขาว่าอยากให้แก้อะไร แก้อย่างไร ตรงไหน แล้วต้องอธิบายได้ว่าแก้แล้วจะเกิดตรงนี้ คุยกันแบบนี้จะได้เบาลงบ้าง หลาน ๆ มีอะไรจะถามไหม ลุงไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่คนเผด็จการ ทำทุกวัน แต่จะทำได้แค่ไหนเท่านั้นแหละ
“แนะทำความดี เดี๋ยวสวยเอง”
นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัว “เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย” (TRBN) โดยระบุความตอนหนึ่งว่า “วันนี้นอกจากการใช้จ่าย ในเรื่องของคุณภาพชีวิตแล้ว อะไรอีกล่ะ ความสวยงาม แต่งตัว อะไรล่ะ..เขาเรียกอะไรนะ ทำหน้าสวย ๆ น่ะ ทำจมูกไปด้วย ทำนองนี้นะ อันนี้คือความต้องการของมนุษย์ธรรมดา ผมไม่ได้ไปอะไรกับท่าน ก็ยินดีที่ทำแล้วมันสวยขึ้น ผมไม่ได้ว่าอะไร คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า ทำความดีไว้นะครับ มันสวยเอง”
“ถ้าบ้านเมืองสงบสุข เราก็อยู่ให้จนครบวาระ!!”
นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีที่พูดถึงเรื่องการเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้กรอบของกฎหมาย ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ โดย “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวว่า ผมยังอยู่ในการเป็นรัฐบาลมิใช่หรือ ตามกรอบกฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะอยู่จนถึงเดือน มี.ค.66 กรอบกฎหมายเขาเขียนไว้อย่างนั้นไม่ใช่หรือ ผมจะอยู่ไปจนถึงปี 67 ได้หรือไม่ล่ะ เมื่อไม่ได้ก็อยู่ในตำแหน่งได้ถึงปี 66 ถ้าบ้านเมืองสงบสุขเราก็อยู่ให้จนครบวาระไปเท่านั้นเอง
“คนรวยใช้เส้นทางเสียเงิน คนรายได้น้อยใช้เส้นทางข้างล่าง”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขณะเป็นประธานในพิธีส่งมอบสิทธิโครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยตอนหนึ่ง ระบุว่า “สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ คือ เราทำสองอย่าง รัฐบาลทำสองอย่าง อย่างแรกก็คือความเท่าเทียม เท่าเทียมทางด้านโอกาส คนไทยทุกคนต้องมีโอกาส ใช้รถใช้ถนน ใช้สะพาน ใช้ประโยชน์อะไรก็แล้วแต่จากสาธารณูปโภคพื้นฐาน คนรวยก็ไปเสียเงินเอา คนรายได้น้อยก็ใช้เส้นทางข้างล่างเอา มันจะได้ไม่แออัดซึ่งกันและกัน ผมคิดอย่างนี้นะ นี่คือความเท่าเทียม เข้าถึงโอกาส การเดินทางต่าง ๆ ก็แล้วแต่”
“ยิ่งไล่ผมยิ่งสู้”
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงกลางที่ประชุมสภาฯ โดยกล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณในด้านต่าง ๆ ก่อนถามขึ้นในที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า ในนี้มีใครไม่เชื่อมั่นตนหรือไม่ขอให้ยกมือ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ไม่มี ผมบังคับไม่ได้ ผมเคารพท่าน 5-7 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยยุ่งกับพวกท่าน ผมเชื่อมั่นในวุฒิภาวะ ผมแก้ปัญหาทุกเรื่องที่พะรุงพะรัง ผมพร้อมสู้ ทุกวันนี้มีคนไล่ผม แต่จะบอกว่ายิ่งไล่ผมยิ่งสู้”
“สั่งค่ายทหารปลูกผักชี แก้ผักแพง!!”
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีห่วงใยราคาผักที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะราคาผักชี ที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 400 บาท จากสถานการณ์น้ำท่วมและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้สั่งในที่ประชุม ครม. ให้นำผัก โดยเฉพาะพริก-ผักชี ไปปลูกในพื้นที่ของทหาร หากผลผลิตออกมาเมื่อไหร่ จะได้ช่วยลดราคาผักลงมาได้ เป็นการลดภาระของประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดผลงานเด่นรัฐบาล ‘พล.อ.ประยุทธ์’ สู้โควิด กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดประเทศ
- ‘บิ๊กตู่’ ขอบคุณข้าราชการทุกคนที่สนับสนุนมาตลอด 7 ปี อวยพรให้ทุกคนมีความสุข
- ‘นายกรัฐมนตรี’ อวยพรปีใหม่ ขอคนไทยปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง