ครม.ไฟเขียวร่างรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ปีที่ 2 เผยผลงานรัฐบาล ปกป้องสถาบัน จัดการโควิด กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดประเทศ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ 2 (25 กรกฎาคม 2563-25 กรกฎาคม 2564) และให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดทุกกระทรวงรับไปพิจารณาร่างรายงานฯ อีกครั้งหนึ่ง และส่งการปรับปรุงแก้ไขให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และให้ สลค. จัดพิมพ์รายงาน
พร้อมให้กระทรวงการต่างประเทศ แปลบทสรุปสำหรับผู้บริหารเป็นฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ในต่างประเทศ และให้สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดพิมพ์บทสรุปสำหรับผู้บริหารฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการจัดทำรายงานฯ ได้ร่วมกับส่วนราชการจัดทำร่างต้นฉบับรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปีที่ 2 (25 กรกฎาคม 2563 – 25กรกฎาคม 2564) มีสาระสำคัญประกอบด้วย บทสรุปสำหรับผู้บริหาร เช่น สภาพปัญหาก่อนเข้าบริหารประเทศ สถานการณ์หลังการเข้าบริหารประเทศ แนวนโยบายของรัฐบาล
ผลการดำเนินงานที่สำคัญของรัฐบาลในช่วงปีที่ 2 อาทิ
- การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
- การบริหารจัดการการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
- มาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดผลกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- การเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
- การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร
- การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
- การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ได้แก่
- ผลการพัฒนาตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ เช่น ด้านความมั่นคง พบว่า ในปี 2563 ความมั่นคงในทุกมิติและทุกระดับของไทยมีคะแนน 2.245 อยู่ในอันดับที่ 114 จาก 163 ประเทศ ดีขึ้นจากอันดับ 116 ในปี 2562
- ผลการประเมินการดำเนินงานตามแผนการปฏิรูปประเทศ เช่น ด้านกฎหมาย มีกลไกการออกกฎหมายที่ดีและเท่าที่จำเป็น รวมทั้งมีกลไกในการทบทวนกฎหมายที่มีผลใช้บังคับแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และพัฒนากระบวนการจัดทำและตรวจพิจารณาร่างกฎหมายให้รวดเร็ว รอบคอบ และสอดคล้องกับเงื่อนเวลา
นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก 12 ด้าน เช่น การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก, การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ส่วนผลการดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วน มี 12 เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน โดยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การปราบปรามการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน และการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย, การช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม,การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กตู่’ ออนทัวร์! เตรียมประชุมครม.สัญจร 15-16 พ.ย.นี้ ที่กระบี่-ตรัง
- รัฐบาลประกาศ ‘คำมั่นสิทธิมนุษยชน’ ต่อสหประชาชาติ 10 พ.ย.นี้
- ‘บิ๊กตู่’ สั่งจัดเคาท์ดาวน์ 5 ภาค 5 จังหวัด ‘พิพัฒน์’ เผย เปิดประเทศผลตอบรับดี