Politics

‘วิษณุ’ คอนเฟิร์ม ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ถูกปลดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

“วิษณุ” คอนเฟิร์ม “ธรรมนัส-นฤมล” ถูกปลดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีพระบรมราชโองการให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากในตัวพระบรมราชโองการได้มีการอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 บัญญัติไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคําแนะนํา

วิษณุ

เพิ่งรู้ข่าวลาออก

ทั้งนี้ วันที่มีผลบังคับจริงคือวันที่ระบุในพระบรมราชโองการ นั่นหมายถึง ตั้งแต่เวลา 01.00 น.ของวันที่ 8 กันยายน 2564

“ผมเพิ่งได้ทราบข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส แถลงข่าวว่าได้ทำจดหมายลาออก ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นระบุวันที่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่เป็นทางการคือให้ยึดตามพระบรมราชโองการ”

วิษณุ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะตามรัฐธรรมนูญระบุไว้เพียงแค่ให้มีรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 36 คน ดังนั้นจะปล่อยให้ทิ้งว่างก็ได้ เพราะเนื่องจากทั้งสองตำแหน่งนี้ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.)ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) ส่วนงานในหน้าที่ของสองรัฐมนตรีก็จะต้องกลับคืนสู่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เพราะอำนาจหน้าที่ของรมช.ก็เป็นไปตามคำสั่งมอบหมายจากรมว.อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อไม่มีรมช. อำนาจเหล่านั้นก็กลับคืนสู่ รมว.

เมื่อถามว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีใครคิดหรอก มีแต่สื่อที่คิด ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรในการปรับเปลี่ยนตัวบุคคล

วิษณุ
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Dawee Chaikere

ธรรมนัสแจงเหตุลาออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. พรรคพลังประชารัฐว่า ขอใช้เวทีรัฐสภาแถลงข่าว เป็นเรื่องที่ไม่สบายใจ และนอนคิดมาหลายเดือนแล้ว คือตำแหน่ง “รมช.เกษตรและสหกรณ์” ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เกียรติได้ทำงานเพื่อประชาชนมา 2 ปีกว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ เนื่องจากตั้งมั่นมาโดยตลอดว่า หากวันหนึ่งได้มีโอกาสได้มารับใช้ประชาชน ยึดมั่นว่าจะทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติและบ้านเมือง แต่ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา บรรยากาศการบริหารช่วยราชการแผ่นดินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ อยากกลับไปอยู่จุดเดิม นั่นคือการเป็น ส.ส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo