อธิบดีกรมศุลกากร กางตัวเลขช่วงปี 2554-2560 “ผู้กำกับโจ้” เจ้าของสำนวนยึดรถได้ 368 คัน ขายทอดตลาดได้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท คาดน่าจะได้เงินสินบนมากกว่า 300 ล้านบาท
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้สัมภาษณ์ กรณีกรมศุลกากรเข้าตรวจสอบกรณี พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ”ผู้กำกับโจ้” นำรถยนต์ผิดกฎหมายส่งให้กรมศุลกากรดำเนินคดี และขายทอดตลาดว่า ในภาพรวมตั้งแต่ปี 2554-2560 “ผู้กำกับโจ้” ได้ส่งสำนวนคดี และส่งรถผิดกฎหมายศุลกากรได้มากถึง 368 คัน ซึ่งรถที่นำส่ง มีหลายประเภท และหลายรูปแบบ
รถยนต์ที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ซึ่งเคยอยู่ในทีมชุดจับกุมรถหรูผิดกฎหมาย ได้ส่งสำนวนคดี และส่งรถผิดกฎหมายมานั้น ทำให้กรมศุลกากร สามารถขาดทอดตลาดได้ 363 คัน และอีก 5 คัน ยังไม่สามารถขายออกไปได้ รถที่จับมาไม่ได้มีเพียงรถหรู มีรถตลาดทั่วไปด้วย
สำหรับรถ 29 คัน ที่มีรายชื่อ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ครอบครอง พบว่า เป็นรถหรู 10 คัน โดยมีเพียง 1 คัน ที่เป็นรถจากการประมูล และเสียภาษีปกติ 2 คัน แต่ข้อมูลที่น่าสนใจ คือมีการครอบครองรถอีก 13 คัน โดย 5 คัน ผ่านทางศุลกากรตามปกติ อีก 2 คันมาจากการขายทอดตลาด เมื่อปี 2555 คือ รถปอร์เช่ และเบนท์ลีย์
จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า กรมศุลกากร ได้นำรถยนต์ที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์นำส่งมานั้น ดำเนินคดีจนสิ้นสุด และนำมาขายทอดตลาด ได้เงินทั้งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท (ราคาเริ่มประมูลโดยรวมทุกคันอยู่ที่ราว ๆ 500 ล้านบาท)
เงินรายได้จากการประมูลรถทั้งหมด พ.ต.อ. ธิติสรรค์ จะได้ค่าสินบนนำจับ 30% เพราะเป็นเจ้าของสำนวนคดี และเงินรางวัลอีก 25% ตามสัดส่วนในระเบียบกรมศุลกากร
นายพชร กล่าวว่า ขณะนี้กรมศุลกากรอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพื่อเตรียมส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
สำหรับกรณี “ผู้กำกับโจ้” มีการก่อเหตุส่วนใหญ่ในช่วงปี 2554-2560 ขณะนั้น ระเบียบกรมศุลกากรได้จ่ายเงินสินบน และเงินรางวัลรวมทั้งหมด 55% จากเงินค่าขายทอดตลาด หรือประมูลของกลาง โดยไม่ได้กำหนดเพดาน
แต่หลังจากปี 2560 ได้ปรับแก้กฎหมายและระเบียบใหม่ โดยจ่ายค่าสินบน 20% และเงินรางวัล 20% รวมถึงกำหนดเพดานจ่ายไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อสำนวน
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าช่วงปี 2549-2558 กรมศุลกากรได้รายได้จากการขายทอดตลาด หรือประมูลของกลางทุกประเภท เป็นเงินรวม 31,432 ล้านบาท จ่ายค่าสินบนนำจับ 3,939 ล้านบาท จ่ายค่าเงินรางวัล 4,576 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 8,514 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกราว 22,918 ล้านบาท ได้นำส่งคลังเป็นเงินแผ่นดิน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ต่างชาติสนใจคดี ‘ผู้กำกับโจ้’ วิจารณ์แรง ตำรวจ ‘ทารุณผู้ต้องหา-คอร์รัปชัน’ หาได้ไม่ยากในไทย
- รู้แหล่งกบดานแล้ว! รอง ผบ.ตร. เผย ‘ผู้กำกับโจ้’ ไม่ได้หนีไปกับลูกน้อง ปัดเปิดข้อมูลสอบ 5 ตำรวจ
- ‘ดีเอสไอ’ ตรวจสอบพบ ‘ลัมโบร์กินี’ ผู้กำกับโจ้ อยู่ในคดีรถหรู