Politics

ครม.รับทราบมูลค่าส่งออกทำนิวไฮ!! พุ่ง 67,761 ล้านดอลลาร์

ครม.รับทราบแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัว 0.7-1.2% ขณะที่มูลค่าส่งออกไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 67,761 ล้านดอลลาร์ สูงสุดตั้งแต่มีการจัดเก็บข้อมูล

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 2/2564 ขยายตัว 7% ขณะที่แนวโน้มทั้งปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 0.7-1.2% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะกลับมาขยายตัวอย่างช้า ๆ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายลงทุน และมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐ รายได้ภาคเกษตรที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และฐานการขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ

มูลค่าส่งออก

รายละเอียดสำคัญ มีดังนี้

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/2564 ได้แก่ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 2/2564 กลับมาขยายตัว 4.6% การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาล ขยายตัว 1.1% การลงทุนเอกชนในไตรมาส 2/2564 เพิ่มขึ้น 9.2% ขณะที่การลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น 5.6% ขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 67,761 ล้านดอลลาร์สูงสุดเท่าที่มีการจัดเก็บข้อมูล หรือ ขยายตัว 36.2% โดยสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น อาทิ รถยนต์นั่ง (89.1%) รถกระบะ (190.5%) เป็นต้น

การนำเข้าสินค้า มีมูลค่า 58,048 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41.8% ในครึ่งปีแรกมีมูลค่า 131,765 ล้านดอลลาร์ ด้านการผลิต สาขาเกษตรกรรม การป่าไม้และการประมง ขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ที่ 2.0% อย่างไรก็ตาม สาขาที่พักแรมและการบริการด้านอาหาร ขยายตัวจากฐานต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.2% โดยในไตรมาสนี้มีรายรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ 0.035 ล้านล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยในไตรมาส 2/2564 มีจำนวน 20,275 คน

ขณะที่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ไทยมีอัตราการว่างงานในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 1.9% ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 2.0% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 2.4% ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 5.2 พันล้านดอลลาร์ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และหนี้สาธารณะมีมูลค่าทั้งสิ้น 8,825,097.8 ล้านบาท คิดเป็น 56.1% ของ GDP

มูลค่าส่งออก

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 0.7-1.2% ปรับลดลงจากการประมาณการในครั้งก่อน 1.5-2.5% จากข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยง คือ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงและยังมีความไม่แน่นอนสูง ข้อจำกัดฐานะการเงินของภาคครัวเรือนและธุรกิจ ท่ามกลางการว่างงานที่ยังสูง ความเสี่ยงของการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมจากการระบาดในพื้นที่การผลิต รวมทั้งข้อจำกัดห่วงโซ่การผลิตและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยังได้เสนอ 7 ประเด็นบริหารเศรษฐกิจในปี 2564 ได้แก่

  1. การควบคุมสถานการณ์การระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ลดการแพร่เชื้อ เร่งรัดจัดหาและการกระจายวัคซีนอย่างเพียงพอและทั่วถึง
  2. การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน แรงงาน และภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดของโรคยังรุนแรง และใช้มาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวด
  3. การดำเนินมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเมื่อสถานการณ์การระบาดผ่อนคลายลง
  4. การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้า
  5. การรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
  6. การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน
  7. การรักษาบรรยากาศทางการเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo