Politics

‘ศาลแพ่ง’ ยกคำร้อง ‘ห้ามตำรวจใช้กระสุนยาง’ สั่งใช้ความระวังสลายม็อบ

“ศาลแพ่ง” ยกคำร้องขอห้ามตำรวจใช้กระสุนยาง สั่งใช้ความระมัดระวังควบคุม และสลายม็อบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ของสื่อมวลชนด้วย

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ พ 3683/2564 ที่นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์  สื่อมวลชนกับพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับพวกรวม 4 คน ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับพวกใช้ความรุนแรง กับผู้ชุมนุม และสื่อมวลชน ที่ปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนไม่ปรากฏว่า เจ้าพนักงานตำรวจจงใจ หรือมุ่งกระทำต่อบุคคล ที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นการเฉพาะ และหากโจทก์ทั้งสอง สื่อมวลช นและประชาชน ซึ่งมิได้กระทำการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงด้วยกระสุนยาง ย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญา โดยศาลไม่จำต้องสั่งคุ้มครองชั่วคราว ก่อนพิพากษาตามคำขอดังกล่าวอีก

167258683 4095206440529426 2474026193510241108 n

ประกอบกับตามที่โจทก์ทั้งสอง ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานตำรวจ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน สลายการชุมนุม โดยขัดต่อหลักการพื้นฐาน ว่าด้วยการใช้กำลัง และอาวุธ โดยเจ้าหน้าที่กฎหมาย และหลักการดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 นั้น เป็นคำขอให้คุ้มครองผู้เข้าร่วมชุมนุม เมื่อโจทก์ทั้งสองฟ้องคดี ในฐานะสื่อมวลชน ซึ่งมิได้เป็นผู้เข้าร่วมชุมนุม จึงไม่อาจร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแทนผู้ร่วมชุมนุมได้

ส่วนคำขอที่โจทก์ทั้งสอง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน จำกัดพื้นที่การปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชนอื่นนั้น

จำเลยที่1 ต้องปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย จึงต้องจัดพื้นที่ให้แก่โจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชนอื่น เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพยานโจทก์ทั้งสองในชั้นนี้ ก็มิได้เบิกความว่า ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจำกัดพื้นที่ในการปฏิบัติหน้าที่ จึงยังรับฟังไม่ได้ว่า เจ้าพนักงานตำรวจจำกัดพื้นที่ในการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนอื่น

ม็อบ 7 สิงหา31

อีกทั้งโจทก์ทั้งสอง ก็มิได้มีคำขอท้ายฟ้องขอให้ศาลห้ามจำเลยที่ 1 จำกัดพื้นที่การปฏิบัติงานของโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชน โจทก์ทั้งสองจึงไม่อาจขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในกรณีดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม ได้ความตามทางไต่สวนว่า จำเลยที่ 1 โดยเจ้าพนักงานตำรวจ ใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยาง ในการควบคุมฝูงชน และสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้สื่อมวลชนหลายราย ซึ่งมิใช่ผู้ร่วมชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนยาง ก่อให้เกิดความหวาดกลัว และไม่ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานตำรวจ ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน และสลายการชุมนุม ซึ่งโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชนอื่น อาจได้รับอันตรายแก่กาย จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ กรณีจึงมีเหตุที่จะคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอนี้

แต่ทั้งนี้ การที่จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย โจทก์ทั้งสอ งและสื่อมวลชน ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนด้วย

จึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมและสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสอง และสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน

ภายหลัง นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความโจทก์ กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จำเลยที่ 1 สั่งให้เจ้าพนักงานตำรวจในสังกัดปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน

ม็อบดินแดง786412

ส่วนที่ขอให้คุ้มครองชั่วคราว ห้ามเจ้าพนักงานตำรวจใช้กระสุนยางกับสื่อมวลชน ซึ่งเป็นไปตามคู่มือที่ออกตามพ.ร.บ.การชุมนุมฯ นั้นศาลเห็นว่า ประเด็นนี้สถานการณ์การชุมนุมแต่ละครั้งไม่ชัดเจนว่า สื่อมวลชนถูกเจ้าพนักงานตำรวจยิงด้วยกระสุนยางทุกครั้งหรือไม่ ตำรวจไม่ได้มีเจตนาพุ่งเป้าไปที่สื่อมวลชนโดยตรง จึงคุ้มครองส่วนนี้ไม่ได้

แต่อย่างน้อยก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน และโจทก์ที่เป็นสื่อมวลชน ไม่สามารถขอให้ศาลสั่งคุ้มครองไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมได้

เมื่อถามว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งห้ามตำรวจใช้กระสุนยาง ในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มม็อบใช่หรือไม่ นางสาวจันทร์จิรา กล่าวว่า ใช่ แต่ศาลสั่งโดยครอบคลุมว่า ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งยืนยันว่า สื่อมวลชนเป็นคนกลาง ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ดังนั้นการจะใช้กระสุนยาง โดยไม่ระมัดระวังกับสื่อมวลชน ทำให้เกิดความกลัวในการนำเสนอความจริงต่อสาธารณะ และประสิทธิภาพลดลง

อย่างไรก็ตามส่วนท้ายของคำสั่ง ศาลได้กำชับสื่อมวลชน ถ้าสื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่ โดยมีท่าทีคุกคาม หรือผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายในการจัดการได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo