สธ. เปิดแบบจำลอง หาก ไม่ล็อกดาวน์ คาดกันยายน เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อป่วยพุ่งเกิน 4 หมื่นราย เสียชีวิต 500 คน กรณีล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน ผู้ติดเชื้อลดเหลือ 2 หมื่นกว่ารายต่อวัน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการจำลองสถานการณ์โควิด-19 ตามแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ SEIR กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน หากไม่ล็อกดาวน์ จำกัดการเดินทางที่เข้มข้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจจะเกินวันละ 40,000 ราย โดยจุดสูงสุดจะอยู่ที่วันที่ 14 กันยายน
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นขึ้นนาน 1 เดือน และมีประสิทธิภาพ 20% ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลือวันละประมาณ 30,000 ราย จุดสูงสุดอยู่ที่ต้นเดือนตุลาคม แต่หากใช้มาตรการเข้มข้นนาน 2 เดือนและมีประสิทธิภาพ 25% จะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงเหลือวันละกว่า 20,000 ราย
ส่วนการคาดการณ์ผู้เสียชีวิตต่อวัน หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ จะพบว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนต่อวัน จุดสูงสุดประมาณวันที่ 28 กันยายน แต่หากมีมาตรการล็อกดาวน์ปลายเดือน กรกฎาคม ตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่เกิน 400 รายต่อวัน จุดสูงสุดอยู่ที่ 26 ตุลาคม ในมาตรการเข้มข้น 20-25%
“หากไม่ทำมาตรการล็อกดาวน์เลย ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจะสูงกว่านี้ ดังนั้น มาตรการล็อกดาวน์จึงสำคัญ ในการลดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต แต่การล็อกดาวน์ ประสิทธิภาพแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่าย”นพ.โอภาส กล่าว
ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ หน่วยราชการต่าง ๆ ทำงานที่บ้านจำนวนมาก ศูนย์การค้ามีการปิด มีไม่กี่อย่างที่เปิด เช่น การไปรับการรักษาพยาบาล การไปฉีดวัคซีน การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ เพราะฉะนั้น ความร่วมมือของประชาชนจึงสำคัญ จากแบบจำลองก็ชัดเจนว่า หากได้รับความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจะลดลง
“มาตรการล็อกดาวน์ ไม่ได้แปลว่า ล็อกดาวน์วันนี้ผู้ติดเชื้อจะลดลงทันที การติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกระยะหนึ่ง มาตรการในช่วงต้นจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เพิ่มสูงเกินไป จากนั้นอีก 2-4 สัปดาห์มาตรการล็อกดาวน์จะเห็นผลชัดขึ้น ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงมา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะประเมินเรื่องนี้เป็นระยะ และจะนำเสนอศบค.ต่อไป” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกระบาดรุนแรงขึ้นมากกว่า 6 แสนรายต่อวัน ทั่วโลกสะสม 198 ล้านราย คาดว่าไม่กี่วันจะถึง 200 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยก็มีการติดเชื้อจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยไทยวันนี้ ติดเชื้อ 17,345 ราย โดยภูมิภาคมากกว่ากรุงเทพฯ เล็กน้อย เนื่องจากมีโครงการให้ผู้ติดเชื้อกลับรักษาภูมิลำเนา ปัจจุบันกลับแล้วกว่า 5 หมื่นคน
อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้จะไม่แพร่เชื้อ เพราะจัดระบบดูแลที่บ้านและชุมชน หรือโรงพยาบาล โดยปัจจุบันรับดูแลผู้ป่วยในระบบสาธารณสุข เกือบ 2 แสนคน
ในเรื่องการรักษานั้น ปัจจุบันได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ตามเกณฑ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งมีการสำรองยาในเดือน สิงหาคม 40 ล้านเม็ด และเดือน กันยายนอีก 40 ล้านเม็ด มีจำนวนมากพอสมควรและส่งไปยังภูมิภาค ในแต่ละจังหวัดมียาตัวนี้อยู่แล้ว ซึ่งคนไข้ที่อยู่ในระบ บHome Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) มีโอกาสได้รับยาเหล่านี้ เพื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มต้น และช่วยลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิตได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เตรียมตัว!! จ่อยืด ‘ล็อกดาวน์’ ไม่มีกำหนดหลังยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่ง
- ‘โรงงานติดโควิด’ รอบใหม่พุ่ง 518 แห่ง ‘ศบค.’ ชี้ยังต้องรักษาระบบการผลิตไว้ ช่วยนำรายได้เข้าประเทศ
- ‘ยิ่งลักษณ์’ ฟาดแรง!! ทุกวิกฤติมีความหวัง หากเรามีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์