ตร.เตือนม็อบชุมนุมผิดกฎหมาย ทั้งในพื้นที่กทม.-ต่างจังหวัด

ตำรวจเตือนจัดชุมนุมผิดกฎหมาย ม็อบระวังคดีติดตัว เหตุเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมเตือนการชุมนุมหลายจังหวัด เข้าข่ายผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)และโฆษก บช.น.กล่าวถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมวันนี้มี 2 กลุ่มหลัก กลุ่มที่ 1. ของนายจตุภัทร หรือไผ่ดาวดิน มีการนัดหมายกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเวลา 15.00 ส่วนกลุ่มที่ 2. จะเป็นกลุ่มฮาเล่ย์ เป็นม็อบ จยย.มีการนัดหมายชุมนุมกัน นัดหมายกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเวลา 13:00 น โดยจะเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ล่าสุดการข่าวทราบว่าจะวนอยู่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

“ตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำเรียน ช่วงนี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง ประกอบกับกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมด้วยประการหนึ่งประการใดไม่สามารถกระทำได้ เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ตลอดจนการดำเนินการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมบนผิวการจราจรการใช้เครื่องเสียงจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกและพ.ร.บ.เครื่องกระจายเสียง”

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในช่วงวันที่ 21-24 ก.ค.มีการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้หลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นสีลม หอศิลป์ แยกปทุมวันตลอดจนห้าแยกลาดพร้าวและแยกราชประสงค์ ในส่วนนี้ตำรวจพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ตัวบุคคลถ้าผู้ใดมีส่วนในการร่วมกระทำความผิดผู้นั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย

ส่วนการข่าวในการชุมนุมวันนี้น่าจะอยู่ในความสงบเรียบร้อย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังไว้เพียงพอในการรักษา ความสงบเรียบร้อย ไม่น่าจะมีอะไรเป็นห่วง มีการเตรียมการในทุกมิติเพื่อรองรับสถานการณ์

อย่างไรก็ตามการรักษาความปลอดภัยไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเพียงอย่างเดียว กองบัญชาการตำรวจนครบาล พิทักษ์ไว้ซึ่งสถานที่ราชการ หรือสถานที่สำคัญโบราณสถาน และสถานที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประเทศไทยเราดูแลในภาพรวมทั้งหมด

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การชุมนุมในพื้นที่ทั่วประเทศแต่ละจังหวัดมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายพื้นฐาน แต่อาจจะถูกให้เป็นประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอย่างพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 13 จังหวัด

นอกจากนี้การจัดกิจกรรมคู่ขนานต่างจังหวัดที่ผ่านมามีการพิสูจน์ทราบกลุ่มผู้ที่ร่วมชุมนุมและกลุ่มที่เราสามารถเอาผิดบางส่วนได้แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นในบางจังหวัดในวันนี้ อย่างเช่นจังหวัดสุรินทร์ จะมีการวางมาตรการที่เข้มข้น ว่าการกระทำใดเป็นสามารถกระทำได้ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย

“อยากฝากเรียนว่ากลุ่มเชิญชวนหรือกลุ่มที่จะออกมาชุมนุมให้ดูเหตุและผล และอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเช่นการชุมนุมพื้นที่กรุงเทพฯ มีคดีตามมาจำนวนมาก การกระทำอันใดที่กระทบสิทธิต่อผู้อื่นไม่อยากให้กระทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอยู่ตรงกลางและรักษาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่”

อ่านข่าวเพิ่มเติม: