Politics

ศบค.ห่วงต่างจังหวัดติดเชื้อพุ่ง – เหตุเดินทางกลับจากทม.และปริมณฑล

ศบค.ห่วงตัวเลขติดเชื้อต่างจังหวัดพุ่ง เฉพาะกทม.รอเตียง 800 กว่าคน ประชาชนพบเชื้อติดต่อโรงพยาบาลรักษาตัวที่บ้านได้ทันที ปรับแผนใช้โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลผู้ป่วยเหลือแดง  

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันระบุว่า ขณะตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด 10 จังหวัดอันดับแรก กทม. 3,104 ราย สมุทรสาคร 1,067 ราย สมุทรปราการ 837 ราย ชลบุรี 669 ราย ระยอง 516 ราย ปทุมธานี 511 ราย พระนครศรีอยุธยา 359 ราย ฉะเชิงเทรา 352 ราย นนทบุรี 305 ราย และปัตตานี 290 ราย ถ้าดูข้อมูลการติดเชื้อในวันนี้จากเดิมที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกทม.และปริมณฑล ขณะนี้อัตราส่วนต่างจากเมื่อก่อน กทม.และปริมณฑล ตัวเลขไม่ได้ลดลงมาก ส่วน 71 จังหวัด ที่เหลือมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

“จากรายงานกรมควบคุมโรค ระบุหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากทม.และปริมณฑล อาทิ อุบลราชธานี สระบุรี ตาก ขอนแก่น อุตรดิตถ์ สระแก้ว นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์ สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ สตูล ขณะที่จังหวัดลำปาง มาจากโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน และศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้รายงานว่า หลังมีการประกาศใช้ข้อกำหนด ยังมีประชาชนเดินทางข้ามพื้นที่เกินแสนคน ” พญ.อภิสมัย กล่าว

cell virusโควิดใน ม 210723 2

นอกจากนี้ ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ได้พูดคุยถึงการดูแลผู้ติดเชื้อในกทม. มีผู้ติดเชื้อ 3,104 ราย ยังไม่รวมการตรวจด้วยวิธี แรบบิทเทส ที่มีผลบวกไป 2,000 กว่าราย ใน 1-2 วันนี้ กทม.จะรวบรวมตัวเลขการตรวจทั้งหมด เพื่อมารายงานให้เห็นภาพรวม จะมีการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า แต่ละเขต แต่ละกลุ่มเขต สามารถตรวจเชื้อได้ที่ไหน จากข้อมูลพบว่า การตรวจเชิงรุกในกทม. 10 ราย พบผู้ติดเชื้อ 11% ถ้ามีประวัติเป็นผู้สัมผัสจำนวนนี้จะมีผลยืนยันตามมาทีหลัง 15 %  ถ้าเป็นผู้มีอาการทางเดินหายใจจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อได้ถึง 25% ตรงนี้เป็นสิ่งที่กทม.เน้นย้ำ สนับสนุนทุกท่านสำรวจตัวท่านเองและพยายามเข้าสู่ระบบการตรวจ เพื่อได้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็วที่สุด และในแง่ของการรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรอเตียงเพิ่ม 868 ราย

ที่ผ่านมากทม.ปิดเคสผู้ป่วยรอเตียงได้ทั้งสิ้น 121,457 ราย แน่นอนยังมีประชาชนที่ไม่เข้าสู่ระบบ แต่กระบวนการทำงานกำลังเร่งอย่างที่สุด ผู้อยู่ระหว่างรอการจัดสรรเตียง จะได้รับการจัดสรรโดยเร็ว ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยสีแดงถึง 40 ราย จะเร่งนำเข้าระบบโดยเร็วที่สุด ใน 1-2 วันนี้ จะมีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ป่วยระดับสีใดอยู่ในพื้นที่ใด

IMG 20210723135916000000 e1627029090363

พญ.อภิสมัย กล่าวว่าหากดูปริมาณผู้ป่วยในกทม.พบว่า 70-80% เป็นผู้ป่วยสีเขียวอ่อนและเขียวเข้ม ขอทำความเข้าใจกับประชาชนเมื่อได้รับการยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อ หากอาการอยู่ในระดับสีเขียว อาจจะไม่ได้เข้าโรงพยาบาล แนวทางปฏิบัติในปัจจุบัน เน้นให้ดูแลตัวเองที่บ้าน ซึ่งต้องประเมินตัวเองว่ามีอาการระดับไหน ระดับสีเขียวคือ ผู้ที่ยังมีอาการแข็งแรง ติดเชื้อจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ถ่ายเหลว แต่ไม่มีอาการในระบบทางเดินหายใจ การศึกษา Home Isolation ที่หน่วยงานดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ พบการแยกกักที่บ้านได้ผลดี

โดยกรมการแพทย์ รายงานว่าหากตรวจแล้วได้รับการยืนยันว่า เป็นผู้ติดเชื้อสามารถขอเข้า Home Isolation ได้ที่โรงพยาบาลที่ไปตรวจได้เลย เพราะโรงพยาบาลที่รับตรวจหลายโรงพยาบาลรับทำระบบนี้แล้ว แต่ถ้าตรวจที่แล็บเอกชน หรือเอ็นจีโอ ที่รับตรวจแต่ไม่มีโรงพยาบาลรองรับสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 1330 กด 14 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะมีการเพิ่มคู่สาย

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะจัดหมายเลขของสำนักงานเขตในกทม.ทั้ง 50 เขต เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน  เมื่อท่านเข้าระบบเหล่านี้แล้วจะมีคลินิกอบอุ่น 161 แห่ง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) 69 ศูนย์ และโรงพยาบาลหลักจะดูแลให้เข้าระบบ Home Isolation  โดยจะได้รับกล่องรอดตายของ กทม.ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ อุปกรณ์ต่างๆให้ความช่วยเหลือ การเบิกจ่ายสปสช.เน้นย้ำว่าแม้รักษาตัวที่บ้านแต่สามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ รวมทั้งค่าเอ็กซเรย์ ค่ารถหากต้องส่งต่อไปโรงพยาบาล ค่าอาหาร 3 มื้อ ขณะนี้ระบบอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่มีข้อมูลมากพอสมควรที่จะให้ผู้ติดเชื้อในกทม.เข้าถึงการดูแลโดยเร็วที่สุด และหากใครมีประกันสังคมสามารถติดต่อไปได้ที่ 1506 กด 6 ได้ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight