ศบค. เผย สายพันธุ์เดลตาระบาดหนัก เกิน 50% ในพื้นที่กทม. 5 เขต ทั้ง”จตุจักร – บางรัก – จอมทอง -คลองเตย และหลักสี่” นายกฯ ย้ำต้องไม่มีคนเสียชีวิตที่บ้านจากโควิด-19 สั่งขยายศูนย์พักคอยในชุมชนทั้ง 50 เขตกทม.
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า ขณะที่ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า สายพันธุ์เดลตาระบาดหนัก การแพร่เชื้อใน กทม. เกิน 50% ในหลายจุด โดยเฉพาะใน เขตจตุจักร บางรัก จอมทอง คลองเตย และหลักสี่
ทำให้ กทม.พุ่งเป้าการจัดทีมป้องกัน และแก้ปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในชุมชน หรือทีม CCRT ที่จะไปค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชนให้ได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด
สายพันธุ์เดลตาระบาดหนัก เกิน 50% ในพื้นที่กทม. 5 เขต
โดยผลดำเนินการระหว่างวันที่ 15-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่เดินเท้าเคาะประตูบ้านไปแล้ว 139 ชุมชน มีผู้รับบริการ 4,583 ราย เฉพาะวันที่ 20 กรกฎาคม วันเดียว มีการตรวจ Antigen Test Kit 383 ราย พบเชื้อ 37 ราย แยกกักตัวที่บ้าน 31 ราย แยกกักที่ศูนย์พักคอยในชุมชน 3 ราย ส่งโรงพยาบาล 3 ราย
มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 134 ราย ส่วนนี้จะให้กักตัวที่บ้าน นอกจากนี้ ทีมยังมีบริการฉีดวัคซีนไปแล้ว 4,070 โดส
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้กล่าวในการประชุมเมื่อเช้าว่า จากนี้ไป จะต้องไม่มีกรณี คนเสียชีวิตตามบ้านอีกจากโควิด-19 เป็นประเด็นที่เราต้องจำเป็นนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบโดยเร็วที่สุด
โดยขยายจุดตรวจให้ครอบคลุม ตอนนี้มีการเพิ่มเติมในภาคส่วนต่างๆ เช่น รถพระราชทาน คลินิก ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.
อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่าการจัดสรรเตียงปัจจุบันที่ยังว่างอยู่ในตอนนี้คือ จุดที่สั่งเพิ่มขยาย กทม.และกระทรวงสาธารณสุขพยายามเปิดตรงนี้เพิ่มเติม การจัดศูนย์พักคอยในชุมชนจะมาตอบโจทย์นี้ นโยบายของ ผอ.ศบค.คือ ต้องมีศูนย์พักคอยในชุมชนอย่างน้อย 50 เขตในกทม. ต้องมีเขตละ 1 ศูนย์
เขตไหนมีความสามารถให้มีเขตละ 2 ศูนย์ ถ้า 1 ศูนย์มี 100 เตียง 50 เขตจะได้ 5,000 เตียง ถ้าทุกคนมี 2 ศูนย์จะได้ 10,000 เตียง ถ้าทำได้ 200 เตียงทุกศูนย์ จะรองรับผู้ป่วย 20,000 เตียง ขณะนี้ กทม.ดำเนินการไปแล้ว 49 ศูนย์ใน 47 เขต เปิดรับผู้ป่วยแล้ว 19 ศูนย์ มีเตียงกว่า 3,000 เตียง
ส่วนศูนย์นิมิบุตร ที่มีศักยภาพเป็นศูนย์พักคอยและพักแยก ขณะนี้ต้องรับผู้ป่วยสีเหลืองเข้าไปด้วย ใครที่ผ่านการตรวจแบบ Antigen Test Kit มีการหารือว่าอาจเพิ่มศูนย์ลักษณะคล้ายที่นิมิบุตร เพี่อแรกรับและส่งต่อผู้ป่วยและคัดแยก หากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดงจะจัดเข้าโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่ถ้าเป็นสีเขียวให้แยกกักที่ชุมชน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่าขณะนี้ทางกทม. ขอให้ประชาชนลงทะเบียน “ไทยร่วมใจ” โดยพบว่าการให้ผู้สูงอายุได้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนนั้นพบว่า มีผู้เข้ามาลงทะเบียนค่อนข้างน้อยจึงขอฝากสื่อมวลชนได้ประชาสัมพันธ์ ให้บุตรหลานนำผู้สูงอายุเข้าสู่ระบบรับการฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราเสี่ยง
จากการประชุมร่วมกับคณะสื่อมวลชนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศบค. ขอขอบคุณเนื่องจากได้เห็นความตั้งใจของสื่อมวลชนและยังเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดประชาชน ได้รับรู้ความต้องการ คำถาม ข้อข้องใจของประชาชน อย่างดีที่สุด
การที่มาให้ข้อมูล ศบค. จะรับไปเพื่อนำมาปรับปรุงว่ามีข้อมูลตรงไหนที่ประชาชนยังไม่เข้าถึง เช่น จะไปตรวจได้ที่ไหน เมื่อตรวจแล้วพบติดเชื้อจะทำตัวอย่างไร ไม่พบเชื้อจะต้องทำตัวอย่างไร การจัดการวัคซีน การดูแลพื้นที่ที่แตกต่างกันของกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด
ข้อมูลที่สื่อมวลชนนำมารายงานนั้น เป็นส่วนสำคัญจากประชาชนทั้งสิ้น รวมไปถึงข้อร้องเรียนที่เข้ามาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย 191 หรือแม้แต่กองทัพไทย ขอให้ทุกคนยังทำหน้าที่นี้ต่อไป
หากมีพบเห็นผู้ฝ่าฝืนมาตรการ หรือแม้แต่การทำงานของภาครัฐหากสังเกตุเห็นว่า ยังปฏิบัติไม่ได้ตามมาตรการที่ประกาศไว้ การกักตัวที่บ้าน การกับตัวในชุมชน ถ้ายังมีข้อขัดข้องติดขัดขอให้ติดต่อเข้ามา ที่191 ตลอด 24 ชั่วโมง สายด่วน กทม. ทั้ง 1599 1138 ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจ ในมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรค ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อนำประชาชนผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ ระดมฉีดวัคซีน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศบค.สั่งปิดเพิ่ม 10 สถานที่ 13 จังหวัดสีแดง – รวมร้านตัดผม- ร้านเสริมสวย – สนามกีฬาทุกประเภท
- หยุดไม่อยู่! ‘เรือนจำ’ พุ่งทะลุพัน ‘กทม.’ ทะยานอีกรอบ 2,921 ราย ดันยอดโควิดวันนี้ 13,002 ราย ดับ 108 ศพ
- สมุทรสาครวิกฤติโควิด! ผู้ว่าฯบอกหนักเกินคาด ถ้าไม่ไหวคงต้อง ‘ปิดจังหวัด’
