รังสิมันต์ โรม ซัดเต็มข้อ รัฐบาลปกครองประเทศแบบอมนุษย์ สั่งล็อกดาวน์หลังเที่ยงคืน บังคับใช้ด่วน ไม่พูดถึงการเยียวยา แถมยังเล่นตลก หัวร่อต่อกระซิกออกสื่อ ลั่นเห็นผลของการสืบทอดอำนาจให้เผด็จการ
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม” อัดรัฐบาลจากการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ สั่งล็อกดาวน์กระทันหัน ไร้มาตรการเยียวยา สะท้อนฉากซ้ำซากของความไม่เอาไหนในการรับมือ และแก้วิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า
“ผลของการสืบทอดอำนาจให้เผด็จการ คือการปกครองบ้านเมืองแบบ “อมนุษย์”
ประกาศข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ห้ามนั่งทานอาหารในร้าน เปิดห้างได้ถึงแค่ 3 ทุ่ม ห้ามจัดประชุมสัมมนา ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้
และที่ทิ่มแทงใจที่สุด คือ เพิ่งมาแจ้งข่าวเอาตอนหลังเที่ยงคืน แต่จะบังคับใช้ให้ได้ภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง ไม่เผื่อเวลาให้ผู้ประกอบการได้เตรียมรับมือ และแน่นอนว่าไม่พูดถึงการเยียวยาแม้แต่น้อย
ทำให้สังคมไทยต้องเดือดดาลกันอีกครั้ง ยิ่งเมื่อผู้ที่ประกาศมันออกมานั้น เมื่อวันก่อนยังวางท่าอวดดี เล่นตลกขำขันหัวร่อต่อกระซิกกับบรรดารัฐมนตรีและผุ้บริหาร ศบค. ออกสื่อให้ตำตาประชาชนที่ได้แต่ขมขื่น ขบเขี้ยวคับแค้น ในความไม่รู้สึกรู้สาอะไรของคนพวกนี้
หรือในช่วงเดียวกันนี้เอง ก็มีข่าวนักร้องยูทูปเบอร์ กระทำอัตวินิบาตกรรม สะท้อนปัญหาของคนที่ต้องทำงานในธุรกิจบริการ ที่เปิดทำการเวลากลางคืน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นรายแรกสุด เดือดร้อนต่อเนื่องยาวนานสุด โดยไม่ได้รับการเยียวยา และมักต้องตกเป็นจำเลยของสังคมในการระบาดที่เกิดขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คือ ตัวอย่างล่าสุด ของฉากอันซ้ำซาก ของความไม่เอาไหน ในการรับมือและแก้วิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือนแล้ว แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ทำคือ บทจะคุมเข้ม ก็รีบร้อนโดยไม่ให้เวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจ ปราบปรามกันโดยเฉพาะกับฝ่ายตรงข้าม ที่ออกมาชุมนุมประท้วง
แต่พอบทจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยา จะต้องจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาโดยเร็วไว กลับอ้างระเบียบนั่นนี้มาคอยถ่วงเวลา การสื่อสารก็สับสน กลับกลอกไปมาจนผู้คนต้องเสียโอกาส เสียเงินเสียทองไปกับการตระเตรียมการ ที่สุดท้ายเปล่าประโยชน์
และมากไปกว่านั้นคือท่าที คือพฤติกรรมที่แสดงออกของรัฐบาลชุดนี้ ว่าโยนความผิดของการระบาดโรคมาที่ประชาชน การทำงานแบบไม่เห็นความสำคัญของเวลาของคนอื่น ตัวเองได้เงินหลักแสนมาในทุก ๆ เดือน ขณะที่ทุกวันของประชาชน ที่การแก้ปัญหาล่าช้า อาจหมายถึงตัวเลขบัญชีที่ติดลบ คนที่ไม่อาจรอได้อีกจนต้องจบชีวิตลงก็มีมาแล้วเป็นหลายสิบราย
หลายต่อหลายราย รอคิวเตียง จนเสียชีวิตคาบ้าน การออกคำสั่งเหมือนสั่งน้ำมูก ไม่ใส่ใจความเดือดร้อนของผู้รับผลกระทบ อย่างการเพิ่งมาออกประกาศเอาตอนเที่ยงคืนนี้ ถามจริง ๆ ว่าถ้าเจ้าของร้านที่เขาต้องนอนเอาแรง เพื่อเตรียมตัววันต่อไปตั้งแต่เช้า เขาตื่นมาเจอกับประกาศฉบับนี้ จะให้เขารู้สึกอย่างไร?
การปกครองบ้านเมืองแบบนี้ ที่ไม่เห็นหัวประชาชนคนอื่นว่า ต้องเป็นเดือดเป็นร้อน จากการใช้อำนาจของตัวเองอย่างไรนั้น มีแต่ “อมนุษย์” เท่านั้นที่จะทำกัน
ซึ่งหากพิจารณาไปถึงต้นตอ ดูไปถึงที่มาของรัฐบาลชุดนี้ ที่เริ่มต้นจากการทำรัฐประหารเข้ามา แล้วมาเขียนกฎหมาย เพื่อสืบทอดอำนาจตัวเอง ภายใต้หน้าฉากของการเลือกตั้ง ให้กลุ่มคนที่ตัวเองเลือกมา มีอำนาจเลือกตัวเองเป็นรัฐบาลอีกทีหนึ่งแล้ว ก็อาจไม่เป็นที่น่าแปลกใจนักว่า รัฐบาลที่ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยกลไกที่ยึดโยงกับประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน เพราะมีกลุ่มคนของตัวเอง เป็นหลักประกันการเป็นรัฐบาลอยู่แล้วนั้น จะคาดหวังให้รัฐบาลนี้ มีความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร
ผมจึงยังคงยืนยันอย่างที่ยืนยันมาตลอดว่า ที่เราพูดถึงปัญหาด้านการเมือง ที่เราพูดถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่เราพูดถึงปัญหาในรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพราะสุดท้ายแล้วปัญหาเหล่านั้นที่ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว สุดท้ายแล้วนำผลิดอกออกผล มาเป็นรัฐบาลอมนุษย์ชุดนี้นี่เอง
ดังนั้นแล้วเราจึงต้องเดินหน้าแก้ปัญหาเหล่านั้นต่อไป เพื่อยุติกลไกการสืบทอดอำนาจเผด็จการ และในวันข้างหน้า ประชาชนจะได้มีรัฐบาลที่เป็นของประชาชน ยึดโยงกับประชาชน เป็นรัฐบาลที่เห็นแก่ประชาชน ที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันกับเขาบ้าง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชูวิทย์’ โพสต์ขอนายกฯ หยุดหัวเราะร่วน – ชู 2 นิ้ว แต่ชาวบ้านร้องไห้น้ำตาตก
- ‘บิ๊กตู่’ โต้ ‘รังสิมันต์ โรม’ ปมโยกย้ายไม่เป็นธรรม ยันทำตามขั้นตอน!
- รังสิมันต์ ฉะ ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ พัวพันซื้อขายตำแหน่งตำรวจ
