มาตรการเยียวยา โควิด-19 กทม. ลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ ช่วยลดภาระผู้ปกครอง ช่วยเหลือผู้เช่าแผงค้าในตลาด ยกเว้นค่าเช่าตลาดที่ถูกสั่งปิด พร้อมลดค่าเช่า 50% นาน 8 เดือน
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 39/2564 พิจารณา มาตรการเยียวยา โควิด-19 สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด โรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันยังคงมีการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วังทองหลาง ธนบุรี บางกอกใหญ่ เป็นต้น ที่ประชุมจึงได้หารือถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว
หนึ่งในมาตรการเยียวยา ได้แก่ สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร (โรงรับจำนำ กทม.) มีนโยบายลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ให้กับพ่อแม่และผู้ปกครอง ในช่วงเปิดเทอม โดยคิดดอกเบี้ย ร้อยละ 0.5 ต่อเดือน วงเงินรับจำนำสูงสุด 100,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน–30 มิถุนายน 2564
นอกจากนี้ สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ให้การช่วยเหลือ และเยียวยาผู้เช่าแผงค้า และผู้เช่าอื่น ภายในตลาดในกำกับดูแลของ สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร จำนวน 12 แห่ง
ทั้งนี้ ได้มีประกาศยกเว้นการจัดเก็บค่าเช่า หรือค่าบริการรายวัน และค่าบริการส่วนกลาง (ถ้ามี) จากผู้เช่าแผงค้า ที่ถูกสั่งปิดกิจการ ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะยกเลิกคำสั่งปิด กรณีเปิดตลาดก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ให้ชำระค่าเช่าหรือค่าบริการรายวันในอัตรา 50%
สำหรับกรณีผู้เช่าที่ไม่ได้ถูกสั่งปิดตามประกาศฯ และสัญญาเช่าอื่น ๆ ให้ปรับลดค่าเช่าจำนวน 50% เป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่ 1 มกราคม-31 สิงหาคม 2564 กรณีตลาดชุมชนที่จัดเก็บค่าบริการเป็นรายวันให้ปรับลดค่าบริการรายวัน จำนวน 50% ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564
ในส่วนของผู้ค้าและผู้เช่า ตามสัญญาเช่าอื่น ๆ ที่มีหนี้ค้างชำระตั้งแต่เดือนมีนาคม-31 ธันวาคม 2563 ให้เริ่มผ่อนชำระหนี้ค้างเป็นระยะเวลา 5 เดือน ๆ ละ 20% ของหนี้ค้างทั้งหมด โดยเริ่มชำระตั้งแต่เดือนกันยายน 2564–มกราคม 2565 และงดเว้นค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย (ถ้ามี)
ที่ประชุม ศบค.กทม. ยังได้แสดงความห่วงใย บุคลากรกรุงเทพมหานคร ทั้งในส่วนของสำนัก และสำนักงานเขตต่าง ๆ รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุข ในแต่ละเขต ซึ่งต้องปฏิบัติงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เร่งรัดให้สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย จัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล อาทิ หน้ากากอนามัย เฟสชิลด์ ถุงมือ น้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าน่าจะจัดหา และส่งมอบอุปกรณ์ดังกล่าว ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในเร็ววันนี้
พร้อมกันนี้ ยังได้ผ่อนปรนให้ประชาชน สามารถใช้บริการสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ระหว่างเวลา 05.00 – 21.00 น. โดยอนุญาตเฉพาะการเดินและวิ่ง เพื่อออกกำลังกายเท่านั้น งดกิจกรรมสันทนาการ การปั่นจักรยานและการออกกำลังกายแบบอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ศบค.กทม. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการสวนสาธารณะ ของกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำหนด ได้แก่
- การสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ใช้บริการในสวนสาธารณะ
- งดใช้อุปกรณ์ออกกำลังทุกประเภท
- งดใช้สนามเด็กเล่น ฟิตเนส
- งดรับประทานอาหารในสวนฯ (อนุญาตเฉพาะเครื่องดื่มเท่านั้น)
- งดการรวมกลุ่มสนทนาและการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่ม
- งดการแสดง การละเล่น และการแข่งขันทุกประเภท
- ผู้เข้าใช้บริการทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง โดยตรวจวัดอุณหูมิก่อนเข้าสวนฯ หากอุณหภูมิสูงเกินกำหนดจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสวนทุกกรณี
- ผู้ใช้บริการที่เป็นชาวต่างชาติ ต้องลงทะเบียนในสมุดลงทะเบียน ก่อนเข้าใช้บริการ
อย่างไรก็ดีปัจจุบัน สวนสาธารณะที่มีบริการโซนสำหรับสุนัข Dog Park ยังไม่เปิดให้บริการ จึงขอให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ดูแลสวนอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
ที่ประชุมได้กำชับให้ คณะทำงานด้านการประสานงาน การดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งมีสำนักเทศกิจเป็นเลขานุการคณะฯ ตรวจแนะนำสถานที่ และประชาชนที่ดำเนินกิจกรรม กิจการต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามที่ทางราชการกาหนดอย่างเคร่งครัด จริงจัง และเข้มงวด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกเคหสถาน หรืออยู่ในสถานที่สาธารณะ
ขณะเดียวกัน ยังให้แต่ละเขต ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการโยธา สำนักอนามัย สน.ท้องที่ รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง ตรวจแนะนำให้เจ้าของหรือผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 และมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรคที่กำหนด โดยเฉพาะแคมป์คนงานก่อสร้าง ตลาด และโรงงาน เพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไข การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
ในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกาหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือน และสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตาม ให้ดาเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สุพัฒนพงษ์’ สรุปชัดทุกเรื่อง มาตรการเยียวยาธุรกิจ ฝ่าโควิด-19 ห่วงท่องเที่ยว
- เปิดรายละเอียด 4 มาตรการเยียวยาโควิด ได้เงินกี่บาท ใครได้บ้าง เช็คเลย!!
- เคลียร์ชัด จ่ายเยียวยา แพ้วัคซีนโควิด-19 เน้นชดเชยรายได้ ความรุนแรง
