COVID-19

เปิดสถิติฉีดวัคซีนโควิดทั่วโลก! ไทยฉีดแล้ว 7.58 ล้านโดส อันดับ 3 ของอาเซียน!

เปิด สถิติฉีดวัคซีนโควิด ทั่วโลกฉีดแล้ว 2,597 ล้านโดส เฉพาะไทยฉีดแล้ว 7,587,178 โดส อันดับ 3 ของอาเซียน “ภูเก็ต” ฉีดเข็มแรกมากสุด 63.22%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,597 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.5 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 317 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 149 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว

อาเซียนขณะนี้ทุกประเทศมี สถิติฉีดวัคซีนโควิด แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 73.804 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (45.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 35.283 ล้านโดส

สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 7,587,178 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 45.2%

ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,597 ล้านโดสนี้ อว.ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

สถิติฉีดวัคซีนโควิด

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2564

จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 8,500,000 โดส

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 7,587,178 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

  • เข็มแรก 5,486,092 โดส (8.3% ของประชากร)
  • เข็มสอง 2,101,086 โดส (3.2% ของประชากร)

2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์-20 มิถุนายน 2564 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 7,587,178 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 194,465 โดส/วัน ประกอบด้วย

วัคซีน AstraZeneca

  • เข็มที่ 1 จำนวน 2,145,310 โดส
  • เข็มที่ 2 จำนวน 49,022 โดส

วัคซีน Sinovac

  • เข็มที่ 1 จำนวน 3,340,782 โดส
  • เข็มที่ 2 จำนวน 2,052,064 โดส

3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

  • 92.29% ไม่มีผลข้างเคียง
  • 7.71% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
  • ปวดกล้ามเนื้อ 1.85%
  • ปวดศีรษะ 1.38%
  • ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.99%
  • เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.01%
  • ไข้ 0.60%
  • คลื่นไส้ 0.41%
  • ท้องเสีย 0.27%
  • ผื่น 0.22%
  • ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.18%
  • อาเจียน 0.11%
  • อื่นๆ 0.79%

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

  • บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่ 1 จำนวน 103.2% เข็มที่ 2 จำนวน 90.4%
  • อสม เข็มที่ 1 จำนวน 25.4% เข็มที่ 2 จำนวน 13.2%
  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่ 1 จำนวน 7.7% เข็มที่ 2 จำนวน 0.4%
  • ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 1 จำนวน 9.5% เข็มที่ 2 จำนวน 2.0%
  • เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่ 1 จำนวน 28.9% เข็มที่ 2 จำนวน 16.3%
  • ประชาชนทั่วไป เข็มที่ 1 จำนวน 8.7% เข็มที่ 2 จำนวน 3%

รวม เข็มที่ 1 จำนวน 11% เข็มที่ 2 จำนวน 4.2%

5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่ 1 จำนวน 16.65% เข็มที่ 2 จำนวน 5.6% ประกอบด้วย

  • กรุงเทพฯ เข็มที่ 1 จำนวน 22.19% เข็มที่ 2 จำนวน 6.91%
  • สมุทรสาคร เข็มที่ 1 จำนวน 16.16% เข็มที่ 2 จำนวน 11.62%
  • นนทบุรี เข็มที่ 1 จำนวน 14.19% เข็มที่ 2 จำนวน 5.33%
  • สมุทรปราการ เข็มที่ 1 จำนวน 11.49% เข็มที่ 2 จำนวน 2.75%
  • ปทุมธานี เข็มที่ 1 จำนวน 7.51% เข็มที่ 2 จำนวน 2.35%
  • นครปฐม เข็มที่ 1 จำนวน 3.99% เข็มที่ 2 จำนวน 1.23%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่ 1 จำนวน 4.54% เข็มที่ 2 จำนวน 1.8%

  • ภูเก็ต เข็มที่ 1 จำนวน 63.22% เข็มที่ 2 จำนวน 38.29%
  • ระนอง เข็มที่ 1 จำนวน 18.77% เข็มที่ 2 จำนวน 6.37%
  • สุราษฎร์ธานี เข็มที่ 1 จำนวน 9.60% เข็มที่ 2 จำนวน 3.50%
  • เกาะสมุย เข็มที่ 1 จำนวน 45.99% เข็มที่ 2 จำนวน 21.65%
  • เกาะเต่า เข็มที่ 1 จำนวน 17.62% เข็มที่ 2 จำนวน 6.02%
  • เกาะพะงัน เข็มที่ 1 จำนวน 9.06% เข็มที่ 2 จำนวน 5.98%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 73,804,311 โดส ได้แก่

  1. อินโดนีเซีย จำนวน 35,283,078 โดส (8.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
  2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 8,050,711 โดส (5.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
  3. ไทย จำนวน 7,587,178 โดส (8.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
  4. กัมพูชา จำนวน 6,012,998 โดส (19.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
  5. มาเลเซีย จำนวน 5,675,002 โดส (12.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
  6. สิงคโปร์ จำนวน 4,691,386 โดส (45.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
  7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
  8. เวียดนาม จำนวน 2,233,208 โดส (2.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
  9. ลาว จำนวน 1,208,878 โดส (10.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
  10. บรูไน จำนวน 66,972 โดส (12.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ

สถิติฉีดวัคซีนโควิด

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

  1. เอเชียและตะวันออกกลาง 60.3%
  2. อเมริกาเหนือ 16.65%
  3. ยุโรป 16.12%
  4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.02%
  5. แอฟริกา 1.62%
  6. โอเชียเนีย 0.29%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

  1. จีน จำนวน 990.26 ล้านโดส (35.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
  2. สหภาพยุโรป จำนวน 323.37 ล้านโดส (36.4%)
  3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 317.12 ล้านโดส (49.5%)
  4. อินเดีย จำนวน 276.26 ล้านโดส (10.1%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

  1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (67.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
  2. มัลดีฟส์ (66.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
  3. บาห์เรน (64.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
  4. อิสราเอล (58.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
  5. สหราชอาณาจักร (55.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
  6. ชิลี (54.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
  7. มองโกเลีย (53.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V)
  8. กาตาร์ (51.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
  9. อุรุกวัย (50.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinovac)
  10. ฮังการี (49.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo