General

สปสช. อ่อนข้อ รพ. เตรียมทบทวน ‘ค่าตรวจเพทซีที’ โรคมะเร็ง หลัง 6 เดือน

สปสช. ยืนยันทบทวน ค่าตรวจเพทซีที โรคมะเร็ง หลังดำเนินการไปแล้ว 6 เดือนแน่นอน ชี้เป็นมติบอร์ด สปสช.ที่กำหนดไว้อยู่แล้วตั้งแต่ 7 มิถุนายน ก่อน เครือข่ายรพ.เรียกร้อง ขาดทุนครั้งละ 8,000 บาท

จากกรณีที่ เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) ออกแถลงการณ์เรื่อง สิทธิประโยชน์การตรวจทางรังสีวิทยาเพทซีที (PET/CT) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยระบุว่า สนับสนุนสิทธิประโยชน์ดังกล่าว แต่อัตราการชดเชยที่ สปสช.กำหนด ค่าตรวจเพทซีที โรคมะเร็ง ต่ำกว่าต้นทุน โดยขาดทุนครั้งละ 8,000 บาทพร้อมเรียกร้องให้ สปสช.ทบทวนอัตราค่าตรวจที่เป็นธรรมภายใน 6 เดือนนั้น

ค่าตรวจเพทซีที โรคมะเร็ง

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช. ขอบคุณUHosNet ที่ให้ข้อเสนอแนะ เพื่อการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อประชาชน โดยในส่วนของข้อเรียกร้องให้ สปสช.ทบทวนอัตราค่าตรวจที่เป็นธรรมภายใน 6 เดือนนั้น จะได้นำเรื่องดังกล่าว หารือต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป

ทั้งนี้ สปสช.ขอยืนยันว่า สิทธิประโยชน์ดังกล่าว เป็นมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ได้เห็นชอบ การจ่ายสำหรับบริการตรวจ PET/CT ตามรายการบริการ (Fee schedule) ในอัตรา 30,000 บาทต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ระหว่าง 7 มิถุนายน-7 ธันวาคม 2564) โดยใช้งบค่าบริการกรณีเฉพาะ ที่กันไว้จำนวน 880 ล้านบาท ตามประกาศหลักเกณฑ์การดำเนินงาน และบริหารจัดการกองทุนฯ ฉบับที่ 2 (ข้อ 8) สำหรับจ่ายชดเชยกรณีดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังให้มีการกำกับติดตาม ประเมินผลกระทบมิติต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ทบทวนอัตราจ่ายต่อไป

ขณะเดียวกัน สำหรับหน่วยบริการ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิภาค ซึ่งมีต้นทุนบริการที่สูงกว่าเขต กทม.และปริมณฑลนั้น บอร์ด สปสช.ได้กำหนดอัตราจ่ายเพิ่มเติมจาก 30,000 บาทต่อครั้ง เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการสารรังสี เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โดยอัตราจ่ายโดยรวมต้องไม่เกินอัตรา 34,337 บาท/ครั้ง

นพ.จเด็จ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

สำหรับ PET SCAN เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ ที่เดิมทางโรงพยาบาลที่มี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของรัฐ โดยเฉพาะในโรงเรียนแพทย์ เมื่อให้บริการกับผู้ป่วยบัตรทอง จะต้องหาเงินจากแหล่งอื่นมาช่วย เช่น มูลนิธิ หรือเงินบริจาค หากผู้ป่วยไม่สามารถจ่ายได้

ขณะที่ สิทธิประโยชน์ใหม่นี้ ใช้งบประมาณที่มีการเตรียมไว้แล้ว ไม่ได้ของบประมาณใหม่ โดยเป็นการจ่ายเพิ่มเติม จากเงินที่โรงพยาบาลได้รับ ซึ่งจะช่วยค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลส่วนหนึ่ง ราคาที่จ่าย จึงจะต้องมีการติดตาม ซึ่งขึ้นกับจำนวนผู้ป่วยที่มารับบริการว่า เพียงพอต่อต้นทุนคงที่หรือไม่ด้วย

ส่วนในระยะแรก จะจ่ายกรณีผู้ป่วยมะเร็งปอด และมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก่อน และจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมข้อบ่งชี้อื่น หากพบว่ามีประสิทธิผล ก็จะได้มีการเสนอต่อ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีมติให้ทบทวน หลังจากดำเนินการไปแล้ว 6 เดือน ตรงกับที่ UHosNet เสนอ โดยในส่วนของโรงพยาบาลที่อยู่ต่างจังหวัด จะมีการชดเชยเพิ่มเติม สำหรับค่าสารเภสัชรังสี เพื่อช่วยเรื่องต้นทุน ทาง สปสช.จะมีการติดตามผลบริการ และหาต้นทุนที่เหมาะสมกับการจ่าย ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อประเมินความเหมาะสม ของอัตราการจ่ายต่อไป

shutterstock 1106237126 1

ในส่วนของ สิทธิประโยชน์ บริการตรวจเพทซีที (PET/CT) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ที่บอร์ด สปสช. มีมติอนุมัติไปเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 นั้น ได้กำหนดอัตราการจ่ายสนับสนุนค่าบริการตรวจในอัตราครั้งละ 30,000 บาท นำร่องเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อเป็นทางเลือก สำหรับการประเมินระยะของ โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (NSCLC) และการประเมินระยะโรคเริ่มต้น

นอกจากนี้ ยังเป็นการประเมิน การตอบสนองระหว่างให้ยาเคมีบำบัด และหลังสิ้นสุดการรักษา สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (HL)

สำหรับการตรวจเพทซีที เป็นการใช้เครื่องมือทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ที่ใช้เทคโนโลยีร่วมกันของเครื่อง PET และ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เพื่อตรวจดูความผิดปกติ ของเซลล์ระดับเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นการถ่ายภาพทางด้านรังสี ที่ตรวจวัดอนุภาคโพสิตรอน ที่ปล่อยจากผู้ป่วย หลังได้รับสารเภสัชรังสีเข้าไปในร่างกาย โดยสามารถให้รายละเอียด เพื่อนำไปวินิจฉัยโรค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้สามารถประเมินระยะ ของโรคมะเร็งได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo