รายแรกในไทย! รพ.ประจวบฯ เเถลงกรณีปลัดอำเภอหญิงเสียชีวิต หลังรักษาตัวหายจากโควิด-19 พบช่วงป่วยไม่แสดงอาการ แต่หลังรักษาหาย พบปอดเสียหายหนักเหลือเพียง 20% ก่อนเสียชีวิต
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายศราวุธ จิระพิทักษ์กุล นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ว่า นางสาววรรณี คงทอง อายุ 58 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียน ที่ว่าการอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต หลังรักษาตัวนานกว่า 1 สัปดาห์ จากอาการปอดติดเชื้อรุนแรง
ปอด 2 ข้างได้รับความเสียหายเหลือเพียง 20% ทำให้ป่วยหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะรักษาตัวก่อนหน้านี้ เพื่อนร่วมงานได้บริจาคเลือดกรุ๊ป เอ เพื่อช่วยเหลือ โดย นางสาววรรณี มีประวัติติดเชื้อโควิด-19 แต่รักษาหายแล้ว จึงได้กลับมาทำงาน
หลังจากมาทำงานที่อำเภอได้ประมาณ 1 สัปดาห์ มีอาการเหนื่อยหายใจติดขัด ทำงานไม่ไหว จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่พบเชื้อโควิด ผลตรวจเอกซเรย์พบปอดมีฝ้าขาว ทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัยอย่างมาก เนื่องจากช่วงที่นางสาววรรณี รักษาตัวจากเชื้อโควิด-19 ที่ โรงพยาบาลสนาม ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น ไม่มีอาการเจ็บป่วย แสดงอาการที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด
แต่พอออกจากโรงพยาบาลสนามแล้ว กลับพบว่า ปอดเสียหายอย่างมาก จนอาการทรุดหนักเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยก่อนที่ นางสาววรรณีจะติดเชื้อนั้น เจ้าตัวได้ลงพื้นที่พบชาวบ้าน เพื่อบริการทำบัตรประชาชนให้ผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุ ที่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล
ต่อมา นางสาววรรณี และลูกจ้างอีก 2 คนในโครงการแผนกงานทะเบียน ถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 จึงเข้ารักษาตัวจนหาย ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว และได้กักตัวเองต่ออีก 14 วัน ก่อนมาทำงาน
ทางด้าน นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของปลัดอำเภอหญิง ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจทางการแพทย์อย่างมาก ซึ่งเดิมผู้เสียชีวิต มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ต่อมาติดเชื้อโควิดเข้ารักษาระหว่างวันที่ 14-30 เมษายนที่ผ่านมา และหายป่วยกลับบ้านโดยไม่มีอาการ
ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม ผู้เสียชีวิตมีอาการหายใจไม่สะดวก จุกแน่นใต้ลิ้นปี่ ไม่มีอาการไอ หรือเสมหะ ไม่มีอาการเจ็บคอ สามารถรับประทานอาหารได้ ไม่มีอาการอาเจียนหรือถ่ายเหลว มีไข้ ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 มีอาการปอดอักเสบรุนแรง และอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงต้องใส่ท่อช่วยหายใจให้ยาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพบว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด ระบบหายใจล้มเหลว ไตวายเฉียบพลัน และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 15 มิถุนายน
“ถ้าสงสัยว่าเป็นปัญหามาจาการติดเชื้อโควิดรอบแรกหรือไม่ ขอเรียนว่า ไม่มีรายงานแบบนี้ในประเทศไทยว่า หายแล้วยังติดเชื้ออีก และการติดเชื้อรอบแรก ไม่มีอาการบ่งชี้ทำให้ปอดเสื่อม หากญาติอยากทราบข้อมูล จะต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ เพื่อหาผลข้างเคียงจากพยาธิสภาพที่โรงพยาบาลจุฬาฯ หรือโรงพยาบาลศิริราช เพื่อตรวจว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิดหรือไม่” นายแพทย์สุริยะ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดประจวบคีรีขันธ์ เพิ่ม 52 ราย คลัสเตอร์โรงงานสัปปะรด ยังไม่หยุด
- โควิดกาญจนบุรีวันนี้!! ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย สะสมรวม 385 ราย
- โควิดเรือนจำ!! ติดเชื้อวันนี้พุ่ง 457 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย