COVID-19

‘หมอนิธิพัฒน์’ หวั่น 120 วันเปิดประเทศอาจมีวิกฤติโควิดระลอกสี่!!

“หมอนิธิพัฒน์” ชี้นโยบาย 120 วันเปิดประเทศทำให้เสียวสันหลังวาบอยู่พิกล กังวลอาจมีวิกฤติโควิดระลอกสี่!!

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า หลงดีใจได้สามวันติดกัน ที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเป็น 10+ แต่วันนี้หน้าหงายเมื่อดีดกลับไปที่ 40+ หวังลึก ๆ ให้เป็นการกระเด้งดีดกลับทางเทคนิคเหมือนดัชนีตลาดหุ้น กลัวแต่ว่ามันจะลุกลามต่อไปเป็นการระบาดรอบใหม่

เนื่องจากยอดผู้ป่วยในเขต กทม. และปริมณฑลไม่ยอมลดต่อ แถมยอดผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจที่เติมเข้ามาในรพ.หลักกลับมาเพิ่มใหม่ หลังดีใจได้ไม่กี่วัน ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาจเป็นจาก

หมอนิธิพัฒน์

1. มีการระบาดของเชื้อสายพันธุ์อินเดีย เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ที่เข้ามาใหม่จะแสดงความรุนแรงทั้งในการแพร่กระจายง่ายและรุนแรงในแง่ของการเจ็บป่วย

2. การควบคุมการแพร่กระจาย ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายยังทำไม่ได้ดีพอ ส่งผลให้มีการลุกลามออกมาสู่ชุมชนคนไทยรอบข้าง กลุ่มก้อนนี้คงไม่สามารถจัดการได้ด้วยระบบปฏิบัติการปกติ เนื่องจากอยู่นอกเหนืออำนาจของหน่วยงานเฉพาะต่าง ๆ ที่มีอยู่ แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายนี้ น่าจะแทรกซึมเป็นวงกว้าง ตั้งแต่งานบริการในครัวเรือน กิจการขนาดเล็ก ไปจนถึงสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดยิ่งใหญ่

หลายคนมองไปถึงการบริหารจัดการแบบสมุทรสาครโมเดล แต่ในครั้งนั้นมีการบูรณาการดำเนินงานทั้งจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกจังหวัด รวมถึงงบประมาณในการดำเนินการที่เพียงพอ เพราะไม่มีการระบาดในจังหวัดอื่นมากนัก มาถึงตรงนี้แล้ว อาจต้องพึ่งอำนาจพิเศษหรือมือที่มองไม่เห็น เพราะหากไม่รีบดำเนินการตัดตอนเรื่องนี้ให้ดี เกรงว่าวิกฤตโควิดระลอกสี่จะหนีไม่พ้น

ที่น่ากลัวคูณสองหรือมากกว่านั้น คือ ปัญหาข้อ 1. และข้อ 2. มีการเชื่อมโยงกัน !!!

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การผ่อนผันมาตรการควบคุมโรคใน กทม. ที่เพิ่งประกาศไปโดยไม่บอกถึงรายละเอียดมาตรการกำกับดูแลให้เป็นจริง หรือมาตรการเปิดประเทศใน 120 วันที่เพิ่งประกาศวันนี้ โดยหวังจะใช้แต่วัคซีนเป็นคำตอบสุดท้าย ทำให้เสียวสันหลังวาบอยู่พิกล

วานซืนได้ไปเยี่ยมทีมโควิดรพ.กลาง ถิ่นเก่าที่เคยไปทำงานเมื่อ 37 ปีก่อน ได้ร่วมเดินดูการจัดเตรียมสถานที่พร้อมกับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การดูแลผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดกันอย่างเมามัน พร้อมได้จัดหาอุปกรณ์การแพทย์บำรุงขวัญและกำลังใจเท่าที่ทำได้

วันนี้ได้มาเยือนทีมโควิด รพ.ตากสิน ถิ่นที่เคยเนาในอดีตพร้อมรพ.กลาง ที่นี่หนักไปทางปรึกษาหารือเรื่องผู้ป่วยกันเสียมากกว่า เพราะทีมงานที่นี่ดูจะช่ำชองกรำศึกมาอย่างโชกโชนแล้ว

หวังว่าทั้งสองที่จะอดทนฝ่าฟันงานหนักกันต่อไปไม่ด่วนล้มลงเสียก่อน เพราะยังให้คำตอบพวกเขาไม่ได้หนักแน่นพอว่าเหตุการณ์เยี่ยงนี้จะยุติหรือบรรเทาเมื่อไร

หลังจากถ่างตาหลับ ๆ ตื่น ๆ รอชมผลงานแปดทีมยุโรปในดวงใจจนครบถ้วนนัดแรกไปเมื่อเช้ามืดวันนี้ ขอจัดลำดับทีมที่อยากให้เป็นแชมป์เรียงลำดับไป คือ อิตาลี ฝรั่งเศส โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน แต่หากจะให้สิ่งมีชีวิตอื่นช่วยสุ่มหาแชมป์ ปีนี้คงไม่ใช่ปลาหมึก หรือสัตว์ประหลาดใด ๆ คงหนีไม่พ้นเจ้าเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 เพราะมันกุมชะตาชีวิตมนุษยชาติมากว่าปีครึ่งแล้วยังไม่ยอมคลาย

#ชักกังวลว่าอาจจะมีวิกฤตโควิดระลอกสี่

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK