COVID-19

อัพเดท ไวรัสโควิดในไทย ‘สายพันธุ์เดลต้า’ เจอแล้ว 496 ราย ในกทม. มากสุด

อัพเดท ไวรัสโควิดในไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย เผยสายพันธุ์เดลต้า 496 ราย มากสุดใน กทม. 404 ราย แต่ภาพรวมยังเป็นอัลฟ่า สูงสุด 4,528 ราย จากทั้งหมด 5,055 ตัวอย่าง

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อัพเดท ไวรัสโควิดในไทย จากการตรวจสอบสายพันธุ์โควิด ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้ามา  ระหว่างวันที่ 7 เมษายน-13 มิถุนานยน จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น 89.6% จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด

อัพเดท ไวรัสโควิดในไทย

ขณะที่ สายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 รายที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่ม 137 ราย มากสุดคือ กทม. สะสม 404 ราย โดยเป็นรายใหม่ 86 ราย และ ยังพบ 10 ราย ในรพ. 3-4 แห่ง อัตราการเพิ่มขึ้น จาก 8% เป็น 9.8%

นอกจากนี้ ยังพบที่ ปทุมธานี 28 ราย นครนายก 8 ราย สกลนคร 3 ราย พะเยา 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และบุรีรัมย์ จังหวัดละ 1 ราย

ส่วนสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกาใต้) ที่เริ่มพบที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เดิมพบ 26 ราย ขณะนี้พบเพิ่มอีก 2 ราย นอกอำเภอตากใบ แต่ยังอยู่ในจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบอีก 3 ราย สถานกักกันตัวของรัฐ จ.สมุทรปราการ

จากการที่ความสามารถในการแพร่เชื้อ ของสายพันธุ์เดลต้า มากกว่าสายอัลฟ่า 40% จึงต้องมีการจับตาอย่างใกล่ชิด เป็นรายสัปดาห์ หากสถานการณ์ยังทรง ๆ อาจจะไม่มีปัญหาแต่หากยังมีการแพร่ระบาด แบบก้าวกระโดด คาดว่าประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นสายพันธุ์ ที่ระบาดมากขึ้น สัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง กับสายพันธุ์อัลฟ่า

กรมวิทย์

ทั้งนี้ ส่วนในต่างจังหวัด ที่พบเชื้อสายพันธุ์เดลต้านั้น พบว่า มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ มาก่อน โดยเฉพาะแคมป์คนงานหลักสี่

อย่างไรก็ตาม การออกมาให้ข้อมูล ไม่ได้ต้องการทำให้ตกใจ แต่เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหา การเฝ้าระวัง เพื่อการควบคุมโรค

ด้าน นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว่า ขณะนี้มีการศึกษาวิจัย การเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ใน 200 คน โดยนำเลือด หรือซีรั่ม มาตรวจสอบกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ พบว่า เมื่อตรวจกับเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม มีภูมิคุ้มกันขึ้นสูง 100% ขณะที่ สายพันธุ์อัลฟ่า ภูมิขึ้น 50-60%

ขณะเดียวกัน จะมีตรวจเพิ่มเติม ในผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้วเป็นเวลา 3 เดือน 6 เดือน อีกครั้ง และล่าสุดกำลังทดสอบ ในคนฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ 1 เข็ม รวมทั้งจะทำการทดสอบกับเชื้อเดลตา และเบต้า เพื่อดูถึงประสิทธิภาพวัคซีน ที่คนไทยได้รับขณะนี้

ด้าน นพ.อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การตรวจสายพันธุ์ต่าง ๆ เป็นการสุ่มตรวจ เพื่อเป็นแนวทางเฝ้าระวัง โดยจะสุ่มตัวอย่างจาก 1. กลุ่มที่มีอาการรุนแรง 2. กลุ่มที่มีการระบาด เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ 3. พื้นที่ที่ไม่เคยระบาด แต่มีการพบเชื้อ 4. ตามขอบชายแดน และ 5. กลุ่มที่ได้รับวัคซีน แล้วยังติดเชื้อ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo