COVID-19

หลังฉีดวัคซีน อยากตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด ระวังโดนหลอก เสียเงินเปล่า

อยากตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด หลังฉีดวัคซีน สบส.เตือนระวังเสียเงินเปล่า ปัจจุบันอย. ยังไม่อนุมัติชุดตรวจ น้ำยาหาปริมาณภูมิคุ้มกัน เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง หลอกลวงประชาชน

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาล เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะทำให้สังคมและเศรษฐกิจ สามารถเดินหน้า หรือนำไปสู่การเปิดประเทศ ทำให้ประชาชนบางส่วน ที่ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 2 แล้ว อยากตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด หลังฉีดวัคซีน

อยากตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด-19

ทั้งนี้ ปัจจุบัน การฉีดวัคซีนในประเทศไทย มีผู้เข้ารับวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 1 แล้วมากกว่า 3.3 ล้านราย และเข็มที่ 2 มากกว่า 1.4 ล้านราย โดยมีเป้าหมาย ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% ของประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

อย่างไรก็ตาม การตรวจหาภูมิคุ้มกันนั้น จะต้องตรวจหา ด้วยวิธีการที่เป็นมาตรฐาน อาทิ Plaque Reduction Neutralization Test (PRNT) ซึ่งมีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพราะฉะนั้น การตรวจโดยวิธีอื่น จึงได้ผลที่ไม่แน่นอน และไม่อาจรับรองได้ว่า มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นหรือไม่

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ชุดตรวจ และน้ำยาตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกัน (Quantitative antibody) ที่ได้รับการอนุมัติจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่สามารถนำมาให้บริการตรวจภูมิคุ้มกัน หลังได้รับวัคซีนโควิด-19

“จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ สถานพยาบาลทุกแห่ง หากมีการโฆษณา หรือประกาศเกี่ยวกับกรณีนี้ จะเข้าข่าย การโฆษณาอันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ฝ่าฝืนกฎหมาย พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม”นายแพทย์ธเรศ กล่าว

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์

ขณะเดียวกัน ภาครัฐมีการศึกษาวิจัยผลลัพธ์ หลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในภาพรวม อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว การตรวจภูมิคุ้มกัน จึงยังไม่มีความจำเป็น สำหรับบุคคลทั่วไป เพราะข้อมูลตัวเลข ที่ได้รายบุคคลนั้น ไม่สามารถนำมาแปลผลได้ ทั้งยังเป็นการเสียค่าใช้จ่าย โดยไม่จำเป็น และอาจจะสร้างความเข้าใจผิด ต่อผลลัพธ์ของวัคซีนอีกด้วย

ที่สำคัญคือ แม้จะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่โอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 ยังคงมีอยู่ จึงขอให้ประชาชน ใส่ใจต่อพฤติกรรมสุขภาพ มีการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อออกจากที่พัก และล้างมือให้บ่อย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ให้ตนเองอย่างยั่งยืน โดยมิต้องเสียทรัพย์สิน

อยากตรวจหาภูมิคุ้มกันโควิด เจอโฆษณาเกินจริง แจ้งได้

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับบทกำหนดโทษ ของการโฆษณาอันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในสาระสำคัญ เกี่ยวกับการประกอบกิจการ ของสถานพยาบาล ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีดังนี้

ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ

ผู้กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะระงับการโฆษณา

ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำกับประชาชนว่า การรับบริการทางการแพทย์ ประเภทใดก็ตาม จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน อย่าด่วนตัดสินใจด้วยคำโฆษณา เพราะหากได้รับบริการทางการแพทย์ที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานแล้ว นอกจากจะเสียทรัพย์สินโดยไม่จำเป็น ยังอาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพร่างกายได้ด้วย

ทั้งนี้ หากพบเห็น หรือมีข้อสงสัยว่า การโฆษณาของโรงพยาบาลเอกชน หรือคลินิกใด เข้าข่ายการโฆษณา อันเป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนกรม สบส. 1426 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ตามกฎหมาย ต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo