COVID-19

ผู้ต้องขังติดโควิด วันนี้ 298 ราย กรมราชทัณฑ์ ลุยฉีดวัคซีนแล้ว 18 แห่ง

ผู้ต้องขังติดโควิด เพิ่มขึ้น 298 ราย เผยข่าวดี ยอดหายป่วยเพิ่มต่อเนื่อง ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นตัวช่วย รักษากลุ่มสีเขียว ล่าสุดฉีดวัคซีนครบ 100% แล้ว 18 แห่ง

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ในเรือนจำ และทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2560 เวลา 16.00 น.) มี ผู้ต้องขังติดโควิด จำนวน 298 ราย รักษาหายเพิ่ม 3,021 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อ ที่ยังอยู่ในการดูแล ของกรมราชทัณฑ์ 8,747 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม

ผู้ต้องขังติดโควิด วันนี้

สำหรับภาพรวมสถานการณ์ การแพร่ระบาดในเรือนจำ และทัณฑสถาน พบว่า มีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ไม่พบการระบาดเท่าเดิมจำนวน 129 แห่ง ขณะที่ยังพบการแพร่ระบาด 12 แห่งเท่าเดิม และในวันนี้ มียอดผู้ต้องขังติดเชื้อ ที่รักษาหายเพิ่มมากขึ้นถึง 3,021 ราย

จำนวนผู้ที่รักษาหายเพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นไปตามกำหนดระยะเวลาของโรค ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่ไม่มีอาการ ตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัยดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ให้กลุ่มผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ แยกกักตัวดูแล ในสถานที่ควบคุม อย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ

โดยถ้าไม่มีอาการผิดปกติ ให้จำหน่ายจากโรงพยาบาล หรือสถานที่ควบคุมได้ โดยให้การรักษาตามอาการ และสังเกตอาการใกล้ชิด จนครบกำหนด เนื่องจากส่วนใหญ่หายได้เอง

ฟ้าทะลายโจร ตัวช่วยรักษา ผู้ต้องขังติดโควิด

กรมราชทัณฑ์ ได้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว โดยการให้ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจร และยาผงฟ้าทะลายโจร พร้อมสังเกตอาการ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันตรวจพบเชื้อ จนพบว่า ไม่มีอาการผิดปกติ  แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่หายจากการติดเชื้อกลุ่มดังกล่าว ยังต้องถูกกักตัว เพื่อสังเกตอาการต่อไป อีกระยะเวลา 14 วัน จึงจะส่งตัวกลับเข้าแดนปกติ​

กรมราชทัณฑ์ มียอดหายป่วยสะสมแล้ว 21,559 รายหรือ 70% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 30,488 ราย และยังคงมีแนวโน้มของจำนวนผู้หายป่วย ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ที่มีมากกว่า 90% ของผู้ติดเชื้อ ที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาทั้งหมด

ทั้งนี้ สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เริ่มน้อยลง ทั้งจากการ SWAB ซ้ำ ในเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่พบการระบาดเดิม และจากผู้ต้องขังรับเข้าใหม่ ที่มีการวางมาตรการคัดกรอง อย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้นำเชื้อ เข้าไปแพร่ระบาดในเรือนจำ ทัณฑสถาน

ราชทัณฑ์ 2

นอกจากนี้ ยังมีการวางแนวทางการรักษา ในกลุ่มผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มสีเหลือง สีแดง ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง โดยการให้ยา และการเข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดอาการของผู้ป่วยหนัก และลดอัตราการเสียชีวิตลง

ควบคู่ไปกับการวางแผนฉีดวัคซีน อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง ตามนโยบายเน้นหนักของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ให้ได้รับวัคซีน เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเร็วที่สุด

ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาแล้ว จำนวน 40,000 โดส และยังอยู่ระหว่างการจัดสรรเพิ่มเติม จนครอบคลุมทั้งหมด ควบคู่ไปกับการแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป

ล่าสุด ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ ผู้ต้องขัง ไปแล้ว 23,329 รายในเรือนจำ ทัณฑสถาน จำนวน 18 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564) ได้แก่

  • เรือนจำกลางสมุทรปราการ
  • สถานบำบัดพิเศษปทุมธานี
  • เรือนจำกลางระยอง
  • เรือนจำกลางพัทยา
  • ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชธานี
  • เรือนจำกลางนครปฐม
  • เรือนจำอำเภอไชยา
  • เรือนจำอำเภอธัญบุรี
  • สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี
  • เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
  • เรือนจำจังหวัดสมุทรสาค
  • รเรือนจำกลางคลองเปรม
  • เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
  • ทัณฑสถานหญิงธนบุรี
  • เรือนจำพิเศษธนบุรี
  • เรือนจำพิเศษมีนบุรี
  • เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากจังหวัดภูเก็ต

สำหรับการดำเนินการฉดวัคซีนที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ 21 แห่ง ซึ่งได้เร่งสั่งการเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo