COVID-19

เปิดผลชันสูตร หญิง 46 ดับ หลังฉีด ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ หมอยังไม่ฟันธงเกี่ยวข้องวัคซีน

แพทย์โรงพยาบาลภูมิพลฯ เปิดผลชันสูตรศพ หญิงวัย 46 ปี เสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ของแอสตร้าเซนเนก้า พบกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน-เส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ยังไม่สรุปว่า อาการที่ตรวจพบเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ 

วันนี้ (11 มิ.ย.) น.ต.นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย หัวหน้าแผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ แถลงความคืบหน้า การชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงวัย 46 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าว่า ภาพรวมขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 5.6 ล้านโดส ดังนั้นการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

IMG 20210611134217000000

น.ต.นพ.อรรถสิทธิ์  ระบุว่า อาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน ไม่เท่ากับผลข้างเคียง และไม่เท่ากับการแพ้วัคซีน โดยการแพ้วัคซีนขณะนี้ พบในอัตรา น้อยกว่า 1 คน ต่อการฉีด 100, 000 โดส  ซึ่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่วัคซีนมีความปลอดภัย

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการเสียชีวิตรายใดเกิดจากการฉีดวัคซีน โดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสรุปผลแล้ว 12 ราย มีโรคสาเหตุการตายชัดเจนว่า ไม่ได้เกิดจากวัคซีน ดังนั้น ข้อมูลยืนยันได้ว่า วัคซีนมีความปลอดภัย  และการพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้เงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

สำหรับข้อมูลเรื่องการชันสูตรศพ กรณีผู้ป่วยหญิง อาชีพแม่บ้าน อายุ 46 ปี เสียชีวิตอย่างกระทันหันนั้น น.ต.นพ.อรรถสิทธิ์ ให้รายละเอียดว่า ศูนย์อำนวยการร่วมการชันสูตร ณ ที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากร้อยเวรประจำวัน สน.บางเขน โดยแพทย์เวรของโรงพยาบาลภูมิพลฯ ได้เดินทางไปชันสูตรพลิกศพ ณ ที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลา 00.30 น. โดยผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว เป็น โรคไมเกรน

ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยโดยสรุปคร่าว ๆ คือ เวลาประมาณ 11.45 น. ผู้ป่วยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด ยี่ห้อแอสตร้าเซเนก้า ที่ศูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคนิคไทยบริหารธุรกิจ หลังการฉีดวัคซีน มีการสังเกตอาการจนครบ 30 นาที ผู้ป่วยไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด

หลังจากกลับบ้าน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ อ่อนเพลียเล็กน้อย หลังจากนั้นเวลาประมาณ 22.00 น. ผู้ป่วยบ่นไม่ไหว และมีอาการชักเกร็ง หมดสติ เพื่อนบ้านได้ช่วยทำ CPR และตามรถกู้ชีพฉุกเฉิน

จากนั้นเวลา 23.10 น. ทำการปั๊มหัวใจ กู้ชีพไม่สำเร็จ และมีการประกาศเสียชีวิต ซึ่งแพทย์เวรที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุลงความเห็นว่า เสียชีวิตแบบไม่ปรากฏเหตุ และเสียชีวิตแบบไม่ทราบสาเหตุ จึงส่งศพมาชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ

ผลการชันสูตรศพพบรายละเอียด ดังนี้ ผู้ป่วยมีภาวะบวมน้ำที่ปอดทั้ง 2 ข้างอย่างรุนแรง พบเลือดออกในถุงหุ้มหัวใจ ปริมาณ 180 ซีซี หัวใจห้องบนขวา มีการฉีกขาดซึ่งเป็นการฉีกขาด ที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

IMG 20210611134215000000

นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังมีกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิดเก่า ที่หัวใจห้องล่างซ้าย และมีเส้นเลือดหัวใจตีบ ทั้ง 3 เส้น คือ เส้นหน้าซ้าย เส้นขวา และเส้นหลังซ้าย

สรุปสาเหตุการตายของผู้ป่วยรายนี้ ผู้ป่วยมีเลือดออกที่ถุงหุ้มหัวใจ จากหัวใจห้องบนขวาฉีกขาด จากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ดังนั้นสาเหตุการตายของผู้ป่วยรายนี้ก็ได้สรุปอย่างชัดเจน ตามที่ได้แจ้งนี้

ขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถึงอาการไม่พึงประสงค์ ภายหลังการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ว่าการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ ดังนั้นขอให้ติดตามการ สรุปผลของคณะกรรมการในขั้นต่อไป

น.ต.นพ.อรรถสิทธิ์  กล่าวถึงกรณีที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจ ถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวไมเกรน ส่งผลต่อการทำให้เกิดการเสียชีวิตหรือไม่ว่า ก่อนหน้านี้มีการเสนอข้อแนะนำไปแล้วว่า ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรน และรับประทานยาไมเกรนเป็นประจำนั้น ให้งดตามข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปฉีดวัคซีน

แต่สำหรับผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้รับประทานยาไมเกรนเม็ดสีฟ้าตัวเดียว กับที่ปรากฏในข่าว ดังนั้นอาจเป็นความสับสน ข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายนี้ คือ เลือดออกที่เยื่อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน หรือไม่ทางคณะกรรมการกำลังตรวจสอบ ซึ่งคงทราบผลได้ในเร็ว ๆ นี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo