อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจง คนฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 โดส ยังติดเชื้อได้ หากสัมผัสผู้ติดเชื้อ ผู้เสี่ยงสูงจึงต้องกักตัว เสี่ยงต่ำเฝ้าระวังอาการ หากป่วยรีบพบแพทย์
วันนี้ (6 มิ.ย.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีข้อสงสัยผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว แต่เป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อภายหลังต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
นพ.โอภาส ระบุว่า การฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสติดเชื้อ หากฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อในภายหลัง ก็จะลดโอกาสแพร่เชื้อได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงให้เหลือน้อยลงที่สุด
ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว แต่พบว่าตนเองใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขอให้ปฏิบัติตามหลักการเดิม คือ ประเมินความเสี่ยง ว่าตนเองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ หากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงขอให้กักตัวเอง 14 วัน หากพบว่ามีอาการให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อ
ส่วนผู้เสี่ยงต่ำ คือ ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันมากในระยะ 2 เมตร พูดคุยกันเกิน 5 นาที ให้สังเกตอาการตนเอง ว่ามีอาการป่วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข อยู่ในระหว่างการศึกษา เพื่อหาข้อสรุปตามหลักวิทยาศาสตร์ ถึงแนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่สัมผัสผู้ติดเชื้อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
นพ.โอภาส ย้ำด้วยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนจำนวนมาก และจะเร่งกระจายวัคซีนลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส เปิดเผยว่า เป้าหมายสำคัญของการฉีดวัคซีนคือ คนในแผ่นดินไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติที่สมัครใจจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่าภายในปี 2564 ส่วนเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มในระดับประเทศคือ จะต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 50 ล้านคน หรือ 100 ล้านโดส
สำหรับเป้าหมายการจัดหาวัคซีนในปี 2564 จะต้องจัดหาให้ได้ 100 ล้านโดส และในปี 2565 มีเป้าหมายจัดให้ได้รวม 150 ล้านโดส และยังมีข้อมูลวิชาการที่อาจต้องเผื่อสำหรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นอีกหนึ่งเข็ม หรือกรณีที่มีการกลายพันธุ์ อาจต้องหาวัคซีน Generation ใหม่ ก็มีการเตรียมแผนไว้อย่างน้อย 50 ล้านโดส ซึ่งไม่ว่างบประมาณปี 2565 จะเป็นอย่างไร รัฐบาลก็มีแนวทางที่จะจัดหางบฯ มาให้กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นงบเงินกู้หรืองบกลางต่างๆ
ขณะนี้ มีการจัดหาวัคซีนตามแผน 100 ล้านโดส โดยแบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส AstraZeneca 61 ล้านโดส ส่งมอบแล้ว 2 ล้านโดส โดยยังขาดวัคซีนอยู่ 33 ล้านโดส
แต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการลงนามในสัญญาจองวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามจองภายในสัปดาห์หน้า ส่วนวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อยู่ในขั้นตอนการเตรียมทำสัญญาและจองวัคซีนเช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าการจองทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้วัคซีนมาอีก 25 ล้านโดส และจะจัดซื้อซิโนแวค อีกอย่างน้อย 8 ล้านโดส ก็จะครบ 100 ล้านโดส
ส่วนแผนการกระจายวัคซีนในเดือนมิถุนายนนี้ จะพยายามกระจายให้ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ โดย เดือนมิถุนายน จะมีการฉีดวัคซีนตามแผนหลัก ซึ่งได้ส่งกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 1.8 ล้านโดสที่ได้รับการส่งมอบมา และยังมีวัคซีนซิโนแวค อีก 1.5 ล้านโดส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สปสช.จ่ายแล้วกว่า 3 ล้าน อาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน
- ไม่เลื่อน! ‘อนุทิน’ ยัน ‘ฉีดวัคซีนโควิด’ ตามกำหนด 7 มิ.ย. มั่นใจ ‘ไทย’ ได้วัคซีนตามเป้า
- ‘หมอยง’ เร่งหาคำตอบ ฉีดวัคซีนโควิด 2 เข็ม คนละชนิด หวังแก้ปัญหา แพ้-ขาดแคลน
