COVID-19

เยียวยาแพ้วัคซีนโควิด ได้ทุกคน สปสช.ย้ำไม่พิสูจน์ถูกผิด เกิดจากวัคซีนหรือไม่

เยียวยาแพ้วัคซีนโควิด ยื่นขอรับเงินเยียวยาได้เลย  สปสช. พร้อมจ่าย ไม่พิสูจน์ถูกผิดเกิดจากวัคซีนหรือไม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบ อนุกรรมการ สปสช. เป็นคนพิจารณา

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมประชากร 50 ล้านคน หรือ 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะมีผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบายจ่ายเงินเยียวยาแพ้วัคซีนโควิด เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน

เยียวยาแพ้วัคซีนโควิด

ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจกับประชาชนอีกครั้งว่า ระบบดังกล่าว เป็นระบบการชดเชยความเสียหายเบื้องต้น คำว่า เบื้องต้น หมายถึง ไม่ต้องถึงขนาดพิสูจน์ถูกผิดจนจบกระบวนการ ว่าเกิดจากวัคซีนหรือไม่ แต่เมื่อใดที่ไปฉีดวัคซีนแล้วเกิดอาการข้างเคียง หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต แต่แพทย์จะระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากเรื่องอื่น แต่ถ้าสงสัยว่าจะเกี่ยวกับวัคซีน ก็สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเข้ามาได้เลย ไม่ต้องรอผลการชันสูตรอะไรทั้งสิ้น

ขณะที่ สปสช.จะมีคณะอนุกรรมการทั้ง 13 เขตทั่วประเทศ ดำเนินการพิจารณาเรื่องเงินเยียวยาให้ และจ่ายเงินภายใน 5 วันหลังมีมติ และแม้ว่าต่อมา จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยไม่ได้มาจากวัคซีน ก็จะไม่มีการเรียกเงินคืนแต่อย่างใด

สำหรับคณะอนุกรรมการ จะพิจารณาโดยใช้ความเชี่ยวชาญ ของความเป็นแพทย์ ดูจากประวัติ จากข้อมูลต่าง ๆ บางครั้งจะเห็นว่า ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวแล้วไปฉีดวัคซีน แล้วเสียชีวิต เป็นไปได้ว่าวัคซีนไปทำให้โรคประจำตัวกำเริบได้ ดังนั้นทุกกรณีที่สงสัย ขอให้ส่งเรื่องมายังอนุกรรมการ

นพ.จเด็จ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

“การที่แพทย์บอกว่า ไม่เกี่ยวกับวัคซีน ไม่ได้เป็นการตัดสินว่าจะไม่จ่ายเงินชดเชย เพราะคณะอนุกรรมการ เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจจ่ายเงินชดเชย ไม่ใช่คุณหมอหน้างานหรือใครก็ตามที่พูด รวมทั้งกรณีการเจ็บป่วยต่อเนื่องต่าง ๆ อย่าเพิ่งไปวินิจฉัย หรือตัดสินเอาเอง ว่าจะได้หรือไม่ได้ ถ้าสงสัยว่าเกี่ยวกับวัคซีน ให้ยื่นเรื่องเข้ามาตามกระบวนการก่อน” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การยื่นขอรับเงินเยียวยาเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์ เป็นเรื่องสำคัญมาก นอกจากจะเป็นการดูแล ผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังทำให้ทราบข้อมูลว่า มีผลข้างเคียงอะไรที่ต้องระวัง หรือต้องวางแผนรับมือ เมื่อมีการฉีดในจำนวนที่มากขึ้น

ในส่วนของขั้นตอนการขอรับเงินเยียวยา ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงกรอกแบบฟอร์ม แล้วยื่นให้ที่โรงพยาบาลที่ไปฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักงานเขตของ สปสช. คณะอนุกรรมการจะพิจารณาผลให้และจ่ายเงินให้ภายใน 5 วันหลังมีมติ และเพื่อให้ประชาชนสะดวกมากขึ้น สปสช.ยังได้ประสานเครือข่ายอื่นๆ เช่น อสม. หรือ หน่วย 50(5) เป็นผู้แนะนำและรับคำขอให้อีกทางหนึ่งด้วย

วัคซีน ชดเชย

ปัจจุบัน มีผู้ยื่นเรื่องเข้ามาแล้ว 260 ราย จ่ายเยียวยาไปแล้ว 162 ราย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอาการชาเป็นหลัก ฉีดแล้วชา ก็จ่ายให้ เพราะถือว่าได้รับความเสียหาย บางคนชา 1 วัน บางคนชาเป็นเดือนก็มี ระยะเวลาที่ต่างกันออกไป จะมีผลต่อการชดเชยที่ต่างกันออกไป

ส่วนกรณีเสียชีวิตมียื่นเรื่องเข้ามา 6 รายทั่วประเทศ เพิ่งอนุมัติจ่าย 400,000 บาทไป 1 ราย ที่พื้นที่ สปสช.เขต 4 สระบุรี ส่วนอีกรายที่ยื่นเข้ามาที่ กทม. คณะอนุกรรมการได้พิจารณาว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็จะเหลืออีก 4 รายที่กำลังพิจารณาอยู่

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า กระบวนการชดเชยความเสียหายจากวัคซีน เป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย ดังนั้นก็ต้องให้เวลาระบบได้ปรับตัวด้วย ที่ผ่านมา ถ้าติดตามข่าวจะเห็นว่าเป็นการตีความ หรือวินิจฉัยผ่านสื่อ หรือโซเชียลมีเดียกันเอง ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการอย่างเป็นทางการ ดังนั้นขอย้ำว่า อย่าเพิ่งตัดสินเอง ขอให้ส่งเรื่องมาให้ สปสช. โดยคณะอนุกรรมการของ สปสช.จะพิจารณาการช่วยเหลือเบื้องต้นให้

กรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนงานโครงการที่รัฐจัดให้ฟรี สามารถยื่นเรื่องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ที่ โรงพยาบาลที่ฉีด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่สำนักงาน สปสช.สาขาเขตพื้นที่ทั้ง 13 เขต โดยมีระยะเวลายื่นคำร้องได้ภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. โทร. 1330

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo