นายกฯ หารือ ศบค.แล้วไฟเขียว”อปท.” ซื้อวัคซีนเองได้ ไม่ต้องแก้กฎหมายมหาดไทย ขณะ”อนุพงษ์”เผยเตรียมแจ้ง “อปท.” ซื้อวัคซีนเองได้ทั้ง 5 ชนิด ที่อย.รับรอง ต้องอยู่ในแผนของ ศบค.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนทางเลือกของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่ามีการหารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รวมถึงฝ่ายกฎหมายแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาหากซื้อได้ก็ซื้อ การซื้อจะผ่านช่องทางใด ผ่านบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนกับประเทศไทย จะจัดหาได้เท่าไหร่จะต้องดูอีกที เพราะเป็นการขึ้นทะเบียนระหว่างรัฐต่อรัฐ และบริษัท กระทรวงมหาดไทย ไม่ต้องแก้กฎระเบียบอะไร เขามีอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว ไม่ใช่อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ต้องดูความแตกต่างงบประมาณของแต่ละจังหวัดที่ได้ไม่เท่ากัน รวมถึงสภาท้องถิ่นจะว่าอย่างไร
ทั้งนี้ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับเขาติดต่อใคร ต่อบริษัทไทย วันนี้มี 3 บริษัทที่เข้ามาติดต่อกับเรา เป็นการรับรองรัฐบาลต่อรัฐบาลด้วย หากเขาจะซื้อบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ขัดข้อง แต่อย่าลืมว่าวัคซีนที่นำเข้าอยู่ในยอดของรัฐบาล ถ้าบริษัทเพิ่มยอดและอปท. ซื้อได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าซื้อในยอดของรัฐบาลและบริษัทจะตัดในส่วนของรัฐบาลออกหรือไม่ ตนไม่ขัดข้องในการจัดซื้อเพราะอย่างไรก็ต้องฉีดให้กับประชาชน ไม่ได้หวงหากทำได้ก็ให้ทำ หากเพิ่มปริมาณได้ก็ยิ่งดี เพราะรัฐบาลฉีดให้ฟรี ดูแลทุกขั้นตอนฟรี การจะซื้อไปฉีดต้องมีค่าบริการจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ขายต่อไม่ได้ เป็นกติกาของกฎหมาย
“ย้ำว่าไม่มีปัญหา หากต้องการจัดซื้อ แต่ปัญหาคือจะซื้อที่ไหน อย่างไร จำนวนเท่าไหร่ เป็นเรื่องอปท. และบริษัทผู้แทนจะต้องไปเจรจากันเอง” พล.อ.ประยุทธ์ก กล่าว
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงการจัดซื้อวัคซีน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เตรียมให้แจ้งไปยัง อปท.ว่า สามารถจซื้อวัคซีนได้ ทั้ง 5 ชนิด ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รับรอง แต่ต้องอยู่ในแผนของ ศบค. รวมถึงให้ติดต่อการซื้อผ่านรัฐ ส่วนผู้ที่รู้ดีคือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งมีข้อมูลกลุ่มเสี่ยง ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาความสับสนเกิดขึ้น
“อปท. ต้องการเข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์ ทั้งการป้องกัน สกัดโรครวมถึงการรักษา แต่ตามกฎหมายเรื่องการซื้อวัคซีนสามารถทำได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือมีคำแนะนำของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุว่าการจัดหาวัคซีนระยะแรก ขอให้รัฐเป็นผู้จัดหา ส่วนการจองและซื้อวัคซีน กระทรวงสาธารณสุข ได้ติดต่อและจองซื้อนานแล้ว กระจายวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน”
พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงด้วยว่าตนเข้าใจว่า อปท.ต้องการช่วย แต่มีสิ่งที่ต้องพิจารณา คืองบประมาณของอปท. และการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ต้องทำให้ได้ 70% ของประชากร คำว่าประชากร หมายถึง ประชากรทั้งประเทศ หรือ ของแต่ละจังหวัด ดังนั้นหากให้ อปท.จัดซื้ออาจเกิดความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามหลักการ สาธารณสุขต้องการให้ขึ้นพร้อมกันทั้งประเทศ
สำหรับการดูแลสถานการณ์โควิด-19 จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะไม่ใช่แต่ต้องการบูรณาการ หรือทำให้อำนาจเป็นเอกภาพเท่านั้นแต่มีแง่ทางกฎหมาย ทั้งนี้นักการเมืองและรัฐมนตรีทุกคนต้องรับผิดชอบ เพราะร่วมเป็น ศบค.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทำความรู้จัก ‘ซิโนแวค’ วัคซีนโควิดตัวล่าสุด ที่ ‘WHO’ อนุมัติใช้ฉุกเฉิน
- แอสตร้าเซนเนกร้าเผยส่งมอบวัคซีนล็อตแรกให้ไทย 1.8 ล้านโดส เพื่อฉีด 7 มิ.ย.
- รถเมล์ฟรี ไปฉีดวัคซีน ขสมก. จัดรถวิ่ง 3 เส้นทาง ส่งถึงศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ 7 มิ.ย.นี้
