COVID-19

โควิด-19 นำหน้ามนุษย์ 1 ก้าวเสมอ ‘หมอมนูญ’ หวั่นกลายพันธุ์หลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีน

โควิด-19 นำหน้ามนุษย์ 1 ก้าวเสมอ “หมอมนูญ” ชี้เชื้อไวรัส หวั่นเชื้อกลายพันธุ์ หลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้ หลังเวียดนามเจอสายพันธุ์ลูกผสม อังกฤษ-อินเดีย

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ถึงวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ โควิด-19 นำหน้ามนุษย์ 1 ก้าวเสมอ เห็นได้จากการกลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วขึ้น ทนทานมากขึ้น รุนแรงเพิ่มขึ้น หวั่นอนาคตจะพัฒนาจนหลบหลีกภูมิต้านทานจากวัคซีนโควิดได้ โดยระบุว่า

โควิด-19 นำหน้ามนุษย์

“เชื้อไวรัสโควิด-19 มีวิวัฒนาการทางธรรมชาติ นำหน้าเรา 1 ก้าวเสมอ

เมื่อปีที่แล้ว ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการควบคุมการระบาดระลอกแรกเป็นอย่างดี ช่วงมกราคมถึง 14 ธันวาคม 2563 ระยะเวลา 11 เดือนครึ่ง มีผู้ป่วย 4,237 คน เสียชีวิต 60 คน

สหประชาชาติชื่นชมไทย รับมือโรคโควิด ในด้าน

1. การดำเนินมาตรการของรัฐบาล

2. ความสามัคคีของประชาชน ในการช่วยกันป้องกันโรค สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ

3. ความรับผิดชอบต่อสังคม ของอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.

มองย้อนหลัง ตัวแปรสำคัญคือ เชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนั้นสายพันธุ์ G ยังไม่เก่งเหมือนเชื้อปัจจุบัน อาจปรับตัวไม่เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งร้อนและชื้น จึงหยุดการแพร่ระบาด

111 side

ขณะนี้ ประเทศไทยเผชิญการระบาดอย่างรวดเร็ว การระบาดระลอก 3 เพียง 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยสะสม 130,929 ราย เสียชีวิตสะสมแล้ว 896 คน

จากการตรวจรหัสพันธุกรรมแบบทั้งตัว ซึ่งต้องใช้เงิน 1-2 หมื่นบาท พบมีการระบาดของสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 ซึ่งติดต่อกันง่าย แพร่กระจายเร็ว ทนร้อน ทนชื้น รุนแรงทำให้ตายมากขึ้น การรับมือการระบาดครั้งนี้ ต้องอาศัยวัคซีน เร่งฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด

เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังนำหน้าเราไปอีกแล้ว ล่าสุด เวียดนามรายงานตรวจพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์อินเดีย B.1.617 กับสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 สามารถติดต่อแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วทางอากาศ

หมายความว่า เชื้อนี้ เหมือนสายพันธุ์อินเดีย แพร่กระจายได้ดียิ่งกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่รุนแรงเท่าสายพันธุ์อังกฤษ

เราจะเผชิญกับโรคโควิด-19 ที่ติดต่อกันง่ายยิ่งขึ้น และยังรุนแรงมากเท่าเดิม ถ้าเชื้อกลายพันธุ์นี้ สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกัน จากการฉีดวัคซีนปัจจุบัน ยิ่งจะสร้างปัญหา จำเป็นที่ทุกคนต้องฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ ที่กำลังพัฒนา เพื่อครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่ๆ  ปีหน้า

ดูสถานการณ์แล้ว เราตามเชื้อไวรัสโควิดไม่ทัน โรคโควิด-19 คงจะอยู่กับเราอย่างน้อยอีก 1- 2 ปี”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา นายเหงียน ธานห์ ลอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม เปิดเผยว่า ทางการเวียดนาม ตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นเชื้อโควิดไฮบริด ที่เกิดการผสมกันระหว่าง เชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย และเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในอากาศ

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม จะแจ้งเรื่องการพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ ต่อองค์การอนามัยโลกโดยเร็ว โดยจากการศึกษา ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ พบว่า เชื้อโควิดไฮบริดนี้ สามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่า โควิดสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ รวมทั้งยังสามารถคัดลอกเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมจึงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก ในพื้นที่ต่าง ๆ กัน ในระยะเวลาอันสั้น

ก่อนหน้านี้ เวียดนามได้พบเชื้อโควิดในประเทศ 7 สายพันธุ์ ได้แก่ B.1.222, B.1.619,D614G,B.1.1.7 (สายพันธุ์อังกฤษ) , B.1.351,A.23.1 และ B.1.617.2 (สายพันธุ์อินเดีย)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo