รัฐบาลชี้แจงงบประมาณต่อสภา วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท สมมติฐานเศรษฐกิจเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.5-3.5% และปีหน้า 4.0-5.0%
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ว่าบประมาณรายจ่าย 2565 จำนวน 3,100,000 ล้านบาท เป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล กำหนดรายได้สุทธิจำนวน 2,400,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 700,000 ล้านบาท รวมเป็นรายรับทั้งสิ้น 3,100,000 ล้านบาท จำแนกยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ด้านความมั่นคง จำนวน 387,909.6 ล้านบาท ร้อยละ 12.5 ของวงเงินงบประมาณ ด้วยการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ รักษาความสงบภายในประเทศ พัฒนาและเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง และพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศเพื่อพร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกมิติ พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติและระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ พัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 2 : ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน จำนวน 338,547.6 ล้านบาท ร้อยละ 10.9 ของวงเงินงบประมาณ โดยมีเป้าหมายกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมในทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนี้ การพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น พัฒนาพื้นที่ให้เป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม รองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว กระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชนและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่สากล โดยมีเป้าหมายให้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 40,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี การพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต การเกษตรสร้างมูลค่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร การพัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ การพัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เพิ่มมูลค่าของธุรกิจดิจิทัลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล/อินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง การพัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 3 : ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ จำนวน 548,185.7 ล้านบาท ร้อนละ 17.7 ด้วยการเสริมสร้างให้คนมีสุขภาวะที่ดี พัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต พัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ เสริมสร้างศักยภาพการกีฬา ปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม มีความรักและความภูมิใจในความเป็นไทย น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อให้สังคมไทยมีความสุข สนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัย
ยุทธศาสตร์ที่ 4 : ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม จำนวน 733,749.6 ล้านบาท ร้อยละ 23.7 เพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายศูนย์กลางความเจริญให้ทั่วถึง เพิ่มโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ ด้วยการเสริมสร้างพลังทางสังคม ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมเพิ่มขึ้น กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย พัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างหลักประกันทางสังคมและความเสมอภาคทางการศึกษา รวมทั้งมาตรการแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เพื่อเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานของรัฐและโอกาสทางสังคมได้อย่างเท่าเทียมกันและปลอดภัย
ยุทธศาสตร์ที่ 5 : ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนเงิน 119,600.3 ล้านบาท ร้อยละ 3.9 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อพัฒนาและอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล สร้างการเติบโตบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง หมอกควันและไฟป่า ปัญหามลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ประเทศมีความมั่นคงด้านน้ำเพิ่มขึ้น การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจ จัดการผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ มลพิษและสิ่งแวดล้อม ยกระดับกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ยุทธศาสตร์ที่ 6 : ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จำนวน 559,300.5 ล้านบาท ร้อยละ 18.0 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อให้ระบบการบริหารราชการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีแผนงานเน้นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ลดปัญหาการทุจริตในสังคมไทยให้ค่าดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Index : CPI) อยู่ในอันดับ 1 ใน 54 และ/หรือได้คะแนนสูงกว่า 50 คะแนน ภายใต้รัฐบาลดิจิทัล พัฒนาการให้บริการภาครัฐผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า พัฒนาบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ พัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา ปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ รวดเร็ว โปร่งใส มีขนาดที่เล็กลง พร้อมปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันนโยบายและให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจภายในประเทศและผลกระทบจากภายนอก รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งในปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 4.0 – 5.0 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก แนวโน้มขยายตัวทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.7 – 1.7 ซึ่งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2565 ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมีหลักการที่สำคัญดังนี้ มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ไม่เกิน 3.1 ล้านล้านบาทสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยรับงบประมาณ และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง และชดใช้เงินทุนสำรองจ่าย ประมาณการรายได้สุทธิไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท และเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท
การจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2565 นี้ อยู่บนสมมติฐานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ว่าจะขยายตัวได้ 4-5% โดยเป็นการขยายตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภาคต่างประเทศ ตามแนวโน้มปริมาณการค้าโลก รวมทั้งปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยว พร้อมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 65 จะอยู่ที่ระดับ 0.7-1.7%
คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 นี้จะขยายตัวได้ 2.5-3.5% โดยมีแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกตามความคืบหน้าของการอนุมัติและการกระจายวัคซีน มาตรการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายการเงิน-การคลัง การใช้จ่ายภาครัฐและการกลับมาขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุน ภายใต้การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ 1-2%
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- สยบดร่ามา งบประมาณปี 2565 เทียบให้ชัด ‘งบกลาโหม vs งบสาธารณสุข’
- เห็นแล้วจุก! งบประมาณปี 65 แพทย์ชนบท อัด ‘บิ๊กตู่’ สอบตก หั่นงบสู้โควิด ‘จ้องซื้ออาวุธ’
- ‘วิษณุ’ ลั่นมีแค่ 2 ทางเลือก ไม่ผ่านก็ต้องยุบสภาหรือไม่ก็ลาออก!!