สธ. เปิดไทม์ไลน์ คลัสเตอร์ตากใบ นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อ “สายพันธุ์แอฟริกาใต้” 83 ราย ต้นตอจากผู้ป่วยรายแรก สัมผัสภรรยาลอบเข้าไทย จากมาเลเซีย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรณีการตรวจพบเชื้อโควิด สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ในประเทศไทย อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งจากการตรวจพบเชื้อจากห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์ของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยได้สุ่มตรวจเชื้อหาสายพันธุ์โควิดที่ระบาดในประเทศไทย ซึ่งกรณีอ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีการสุ่มตรวจและพบสายพันธุ์ B .1.351 เป็นสายพันธุ์พบมากในทวีปแอฟริกา
สำหรับ คลัสเตอร์ตากใบ ปัจจุบันพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ขณะนี้พบติดเชื้อ 83 ราย เริ่มจากเพศชายคนไทยอายุ 32 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ปฏิเสธโรคประจำตัว ขณะที่ป่วยอยู่หมู่ 9 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ เริ่มป่วยช่วงเดือนเมษายน จากการที่มีภรรยาเป็นชาวมาเลเซียมาเยี่ยมและอยู่ด้วยกัน และชายคนนี้มีอาการไข้ ปวดเมื่อย ปวดท้อง และพบแพทย์หลายแห่ง กระทั่งได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคโควิด และส่งรักษาตัว รพ. ขณะนี้หายดีแล้ว ส่วนภรรยาและลูกเดินทางกลับมาเลเซีย
หลังจากพบกรณีดังกล่าว ได้มีการปิดพื้นที่ไม่ให้มีการเข้าออก และสอบสวนโรค จนพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งขณะนี้ผู้ติดเชื้อทุกราย ได้รับการกักกันตัว และมีมาตรการต่าง ๆ ทั้งมาตรการเฝ้าระวัง ค้นหาติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว และค้นหาเชิงรุกในชุมชน
จากการค้นหาเชิงรุก 698 ราย ค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ 160 ราย พบผู้ติดเชื้อ 83 ราย ไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิต หายป่วยแล้ว 16 รายกำลังรักษา 67 ราย และสุ่มตรวจเชื้อแอฟริกาใต้พบ 3 รายทั้งหมดหายป่วยแล้ว
ทั้งนี้ ได้วางมาตรการป้องกันการระบาดของโรค มีการควบคุม และจำกัดการเดินทางเข้าออก การเดินทางในพื้นที่ มีการจัดสถานที่กักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในพื้นที่ ตรวจตราการลักลอบเข้าพื้นที่ และตรวจคัดกรองเชื้อโควิด มีการกำกับติดตามคัดกรองผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และมีการปิดการเข้าออกตำบลเกาะสะท้อน ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งด่านตรวจกำกับการเข้าออกโดยเฉพาะหมู่ 7 หมู่ 7 หมู่ 8 และหมู่ 9 เปิดโลคอลควอรันทีน เพิ่มเติมกรณีพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ลักลอบเข้าพื้นที่ ทั้งนี้ ศูนย์ EOC ตากใบ นราธิวาส ประเมินติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และมีแนวโน้มไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติมจากนี้
“กรณีนี้ทำให้ทราบว่าโอกาสติดเชื้อ โดยเฉพาะการข้ามพื้นที่ชายแดน อย่างมาเลเซียที่เราทราบว่า เป็นประเทศเพื่อนบ้าน และมีการติดเชื้อรุนแรงหลายสายพันธุ์ จึงต้องระวังมากในการเดินทางข้ามไปข้ามา และขอความกรุณาพี่น้องประชาชนหากพบผู้เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมโรคทันที” นพ.โอภาส กล่าว
ขณะที่สายพันธุ์แอฟริกาใต้ มีลักษณะใกล้เคียงที่พบกับประเทศมาเลเซีย รวมกับประวัติสอดคล้องกัน เนื่องจากผู้ป่วยคนแรกมีประวัติสัมผัสกับญาติ ที่ลักลอบมาจากมาเลเซีย ทั้งนี้ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เป็นสายพันธุ์ที่เราให้ความสนใจ เนื่องจากข้อมูลขณะนี้เกี่ยวกับการตอบสนองของวัคซีนต่อสายพันธุ์นี้อาจไม่ดีเท่าสายพันธุ์อื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม วัคซีนยังมีประโยชน์ เพราะลดความรุนแรงลดอัตราการเสียชีวิตได้ ส่วนความสามารถการกระจายของโรค ใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่พบในไทย ทั้งสายพันธุ์อังกฤษและสายพันธุ์อินเดีย ส่วนความรุนแรงของโรคไม่ได้มากกว่าปกติ เพราะคนติดเชื้อในกลุ่มก้อนนี้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ดังนั้น มาตรการป้องกันยังใช้มาตรการทางสาธารณสุข และวัคซีนยังเป็นประโยชน์และต้องใช้อย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ที่ปรึกษา ศบค.’ ยันสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ไม่ได้มาจากในเรือนจำ!
- ‘เพื่อไทย’ จี้รัฐบาลแจงโควิดสายพันธุ์ ‘อินเดีย – แอฟริกา’ สังคมสงสัยหนัก
- ‘หมอธีระวัฒน์’ เตือนเจ้าพ่อตัวจริงมาแล้ว!! เร่งฉีดวัคซีนปูพรมด่วน
