COVID-19

‘สมศักดิ์’ แจงด่วน ผู้ต้องขังติดโควิดเฉียด 3 พันราย มาจากผู้ต้องขังใหม่-เจ้าหน้าที่ เร่งฉีดวัคซีนนักโทษ มิ.ย.นี้

รมว.ยุติธรรม แจง ผู้ต้องขังติดเชื้อ 2,835 ราย มาจากรับผู้ต้องขังใหม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เร่งตรวจเชิงรุก จัดหายา ฉีดวัคซีนโควิดนักโทษทุกคน ลดความแออัด

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ประชุมร่วมกัน พร้อมแถลงข่าวกรณีมีผู้ต้องขังในเรือนจำติดโควิด-19 ถึง 2,835 ราย

เรือนจำ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้นตอของการติดเชื้อผู้ต้องขังในเรือนจำ ในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลาง มาจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ ส่วนเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกคนที่ตรวจพบเชื้อได้ส่งรักษาแล้ว มีการจำแนกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทั้งหมดมีสีแดง 4 ราย มี 1 รายใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากโรคประจำตัว โดยกรมราชทัณฑ์ได้ใช้แนวทางบับเบิ้ล แอนด์ซีล และมีห้องกักโรคแยกชัดเจน

ที่ผ่านมา ได้มีการป้องกันโควิดในเรือนจำ และผู้ต้องขังทั่วประเทศ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับตลอดให้หมั่นดูแลเอาใจใส่ เพราะหากติดเชื้อจะเกิดการลุกลามได้ง่าย จึงใช้นโยบายลดความแออัด จากก่อนหน้านี้ ผู้ต้องขัง 1 คนมีพื้นที่ไม่ถึง 1 ตร.ม. หากโควิดเข้าไปจะยุ่งยาก ซึ่งตอนนี้ปรับจนได้ 1.2 ตร.ม. ตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ขอพระราชทานอภัยโทษ ให้กับผู้ต้องขังประพฤติดี ข้อหาไม่ร้ายแรง อีกหลายหมื่นคน และใช้การพักโทษพิเศษ สวมกำไล EM 50,000 คน ซึ่งตอนนี้ติดกำไลแล้ว 20,000 คน รวมทั้งยังมีประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่อยู่ระหว่างพิจารณารัฐสภา ซึ่งจะปรับอัตราโทษผู้ต้องขังยาเสพติดให้เหมาะสม จะลดผู้ต้องขังได้เกือบ 50,000 คน นี่คือความพยายามแก้ปัญหาลดความแออัดในเรือนจำ

ส่วนการตรวจหาเชื้อในเรือนจำ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รถพระราชทานตรวจโควิด ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น แลส่งข่าวให้ญาติทั้งหมดทราบ แต่เพราะมีผู้ต้องขังจำนวนมาก ทำให้ทำไม่ได้เร็ว

สมศักดิ์

ทั้งนี้ ตามมาตรฐานสากล ผู้คุม 1 คนจะดูแลผู้ต้องขัง 6 คน แต่สำหรับประเทศไทย อัตราส่วนคือ 1 ต่อ 33 เพราะมีบุคลากรน้อย แต่ทำงานเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันทุกคนเริ่มเข้าใจการทำงานของข้าราชการ ว่าเราทำงานเต็มที่ ซึ่งทุกเรือนจำข้างในเข้มงวดมาก แต่ 2 เรือนจำที่ติดเชื้อ เป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่อยู่ตลอด ต่างจากเรือนจำอื่น ๆ ส่วนการออกไปศาล ได้ประสานกับศาลแต่ละจังหวัดแล้ว ขอให้งดไปในระยะนี้ก่อน

“ผมขอยืนยัน รัฐบาล โดยท่านนายกฯ สั่งกำชับ ประสานงานมาตลอด ให้ดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างดี หากยาที่ได้จากสาธารณสุขไม่พอ ทางกรมราชทัณฑ์จะจัดซื้อเอง เพื่อรักษาทุกคน ขอให้ญาติผู้ต้องขังทุกคนสบายใจได้ นอกจากนี้ยังมีการประสานจากแพทย์แผนไทย เรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจรมาใช้ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีผู้ต้องขังติดเชื้อ ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้สามารถควบคุมได้แล้ว ส่วนที่อื่น ๆ ดำเนินการตามสาธารณสุขยังไม่พบ ขณะเดียวกัน ได้ปรับเพิ่มการกักตัวใหม่เป็น 21 วัน และตรวจเชื้อ 2 ช่วง คือ ตอนเข้าและหลังกักตัว และใช้ราปิดเทส จะได้รวดเร็วในการคัดกรองมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ได้เร่งจัดหาวัคซีนให้ผู้ต้องขัง โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงนามอนุมัติจัดหาวัคซีน เพื่อฉีดให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศแล้ว คาดว่า ภายในเดือน มิถุนายน จะเริ่มฉีดจากกลุ่มเสี่ยงสูง ผู้ที่มีโรคประจำตัวก่อน โดยตอนนี้ฉีดให้ข้าราชการที่ต้องทำงานในกลุ่มเสี่ยงไปบ้างแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo