“หมอธีระ” เผยยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 144,398,135 คน เสียชีวิตรวม 3,070,147 คน ชี้ทั่วโลกระบาดหนัก กุญแจสำคัญในการต่อสู้ ยังคงเป็น “ปัจจัยสี่”
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 22 เมษายน 2564… อินเดียทำลายสถิติของอเมริกาแล้ว ติดเพิ่มวันเดียวมากสุดในโลก ในขณะที่ตุรกีแซงสหราชอาณาจักรขึ้นเป็นอันดับ 6 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 890,932 คน รวมแล้วตอนนี้ 144,398,135 คน ตายเพิ่มอีก 14,304 คน ยอดตายรวม 3,070,147 คน
- อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 59,344 คน รวม 32,596,338 คน ตายเพิ่ม 792 คน ยอดเสียชีวิตรวม 583,246 คน อัตราตาย 1.8%
- อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 315,728 คน รวม 15,924,732 คน ตายเพิ่ม 2,102 คน ยอดเสียชีวิตรวม 184,672 คน อัตราตาย 1.2% ขณะนี้จำนวนการเสียชีวิตต่อวันของอินเดียสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าสถิติเดิมในระลอกแรกแล้ว
- บราซิล ติดเพิ่ม 71,910 คน รวม 14,122,795 คน ตายเพิ่มถึง 2,945 คน ยอดเสียชีวิตรวม 381,475 คน อัตราตาย 2.7% ตอนนี้จำนวนการเสียชีวิตต่อวันเริ่มชะลอตัวลง
- ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 34,968 คน ยอดรวม 5,374,288 คน ตายเพิ่ม 313 คน ยอดเสียชีวิตรวม 101,881 คน อัตราตาย 1.9%
- รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,271 คน รวม 4,727,125 คน ตายเพิ่ม 399 คน ยอดเสียชีวิตรวม 106,706 คน อัตราตาย 2.3%
- อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน ตุรกีติดเพิ่มกว่าหกหมื่นคน
- แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
- แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
- แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง
- เกาหลีใต้ และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
…สถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้ชัดเจนว่า ระลอกล่าสุดนี้หนักกว่าช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมา จำนวนการติดเชื้อต่อวันสูงกว่าเดิม
เกาหลีใต้รักษาระดับการติดเชื้ออยู่ประมาณห้าร้อยต่อวันมาได้ราว 8 สัปดาห์ ขณะนี้มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น อัตราการติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นราว 20% ระยะเวลาคงที่ยังคงสอดคล้องกับที่เคยวิเคราะห์ไว้เกี่ยวกับการระบาดซ้ำว่า มักจะคงที่ได้ราว 7 สัปดาห์บวกลบนิดหน่อย
ในขณะที่ญี่ปุ่นรักษาระดับการติดเชื้ออยู่ประมาณหลักพันต่อวันตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ ล่าสุดขึ้นระลอกสี่ตั้งแต่ปลายมีนาคม ระยะเวลาคงที่ก็สอดคล้องกับที่วิเคราะห์ไว้เช่นกันว่่ามักคงที่ได้ราว 4 สัปดาห์
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา คงต้องช่วยกันป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวอย่างเต็มที่ เคร่งครัด เพราะการระบาดตอนนี้กระจายไปทั่ว ทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่น่าหนักใจคือมีการติดเชื้อจากการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีการนำพามาติดคนในบ้าน มีตั้งแต่เด็กเล็กเด็กโต คนวัยทำงาน คนสูงอายุ
จากที่ติดตามประสบการณ์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เจอระบาดระลอกสาม หลังไต่ขึ้นสองสัปดาห์ มักจะเจอช่วงพีคหลังจากนั้นประมาณ 3.5 สัปดาห์ บวกลบ 2.5 สัปดาห์ แม้บางประเทศอาจเร็วกว่านั้นได้บ้างแต่มีไม่มาก ดังนั้นหากเราทราบไว้ก่อน จะได้ไม่ประมาท ตั้งการ์ดป้องกัน วางแผนรับมือไว้ก็จะเป็นการรอบคอบมากกว่า ในขณะที่จำนวนการติดเชื้อต่อวันที่สูงสุดในระลอกสามนั้น เฉลี่ยแล้วจะมากกว่าระลอกสองราว 2.06 เท่า แต่หากควบคุมไม่ได้อาจสูงไปถึง 5.59 เท่า
กุญแจสำคัญในการต่อสู้ ยังคงเป็น “ปัจจัยสี่”
หนึ่ง ระบบการตรวจคัดกรองโรคต้องมีศักยภาพตรวจได้มากและต่อเนื่อง
สอง ประชาชนทุกคนช่วยกันป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด
สาม ลดละเลี่ยงนโยบายที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการนำเชื้อเข้ามา และการใช้มาตรการที่เข้มข้นเพียงพอและทันเวลา ในการจัดการการระบาดในประเทศ ทั้งในเรื่องลดจำนวนคน จำนวนครั้งในการติดต่อกัน และเวลาในการติดต่อกัน
สี่ อาวุธในการต่อสู้มีประสิทธิภาพ หลากหลาย และเพียงพอ
หากขาดปัจจัยใดไป โอกาสที่จะคุมได้ก็จะยากขึ้นตามลำดับ แต่หากเตรียมอย่างพร้อมสรรพ โอกาสที่จะฟื้นฟูประเทศก็จะมีมากขึ้น ดังที่เราเห็นความเคลื่อนไหวของประเทศต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
เหนืออื่นใด จะทำได้ ต้องร่วมด้วยช่วยกันทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน
อยู่บ้าน…ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น
ใส่หน้ากากนะครับ ปิดปาก ปิดจมูก หากไม่ลำบากเกินไป การใส่สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า ก็จะช่วยป้องกันได้ดีขึ้น
ล้างมือบ่อย ๆ พกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัว ล้างทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
อยู่ห่างคนอื่นอย่างน้อยหนึ่งเมตร ไม่ว่าจะคนรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม
เลี่ยงการกินดื่มในร้านหรือโรงอาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า
ระวังเรื่องการใช้สุขาสาธารณะ ปิดฝาก่อนชักโครก ล้างมือทุกครั้ง และใส่หน้ากากด้วย
คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดงาน แล้วรีบไปตรวจรักษา
ด้วยรักและห่วงใย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ หวั่นโควิดระลอกใหม่ แค่ 3 สัปดาห์ติดแล้ว 17,780 คน
- ‘หมอธีระ’ ย้ำสถานการณ์ของไทยยังระบาดต่อเนื่อง น่าเป็นห่วงมาก!!
- ‘หมอธีระ’ เผยยอดโควิดพุ่งทะลุ 142 ล้านคน ย้ำใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ