Politics

‘บิ๊กตู่’ เรียก ‘ผบ.ทสส.’ ถกคุมเข้มชายแดน – ตั้งรพ.สนาม

“นายกรัฐมนตรี” เรียก “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” เข้าพบ กำชับดูแลความมั่นคงในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด คุมเข้มชายแดน ตั้งโรงพยาบาลสนาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ พร้อมเชิญ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) เข้าพบ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรายงานความคืบหน้า การตั้งโรงพยาบาลสนามสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 และการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด หลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ยกระดับการควบคุมสถานการณ์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา

ประยุทธ์194641

รวมถึงรายถึงสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และชายแดนฝั่งตะวันออกที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งต้องควบคุมและตรวจเข้มการคัดกรอง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ฝั่งชายแดนกัมพูชา กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า พบเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษระบาดในพื้นที่ดังกล่าว จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดคัดกรองโรคเป็นพิเศษ

ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กองทัพประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เข้มงวดตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในพื้นที่ได้มีการตั้งด่านคัดกรองขัดขวางขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งศปม. ที่มีกองบัญชาการกองทัพไทยดูแลอยู่ ถือเป็นจุดประสานงานกลางกับกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก ในการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนามทั้งหมดของกองทัพ

โดยขณะนี้โรงพยาบาลสนามทั้งหมด ผ่านมาตรฐานของสาธารณสุขแล้ว และจะส่งมอบให้สาธารณสุขรับไปดูแลต่อ ในส่วนโรงพยาบาลสนามของกองทัพเบื้องต้นมีทั้งหมด 3,000 เตียง และตั้งเป้าให้มีถึง 5,000 เตียง เช่น ที่โรงพยาบาลสนามกองทัพบก (เกียกกาย) กทม. สามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ต่อจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ขณะเดียวกัน กองทัพทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามเอาไว้แล้วเช่นกัน และพร้อมสนับสนุนเตียง และอุปกรณ์อื่นๆทันที ที่กระทรวงสาธารณสุขขอสนับสนุน อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลในสังกัดของกองทัพทุกแห่ง ยังคงรับการรักษาผู้ป่วยทั่วไปตามปกติ แต่ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้รักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด และรักษาเจ้าหน้าที่ซึ่งป่วยจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo