Politics

‘หมอตี๋’ รับโควิดรอบนี้หนักมาก คุมยาก ลั่นต้องเจ็บแต่จบ!

“หมอตี๋” รับ “โควิด” รอบนี้หนักมาก คุมยาก ชี้ 70% เป็นสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ เล็งเคาะปิดทุกจุดทั่วกรุง รับกังวลรัฐมนตรีติดโควิด ลั่นต้องเจ็บแต่จบ!

รายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้สัมภาษณ์ “หมอตี๋” ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่โควิด-19 เริ่มระบาดระลอกใหม่ และจะแก้ปัญหาอย่างไร ในหัวข้อ “ไม่หมดไม่สิ้น ลามอีก โควิด-19 งานนี้ผุดสถานบันเทิงติดตั้งแต่ดารา ยันรัฐมนตรี!!”

ท่านเป็นรัฐมนตรีที่ไปเที่ยวเลาจน์มาหรือเปล่า?

“ไม่ใช่ครับ (หัวเราะ) ถ้าใช่คงนั่งตรงนี้ไม่ได้ อย่างนั้นต้องไปตรวจ เพราะข่าวดังมาก กิจกรรมถ้าเป็นคนหนุ่มโสดอาจเป็นไปได้ แต่ว่าโดยตำแหน่งแล้วก็ไม่เหมาะสม”

มีไปมั้ย?

“ผมไม่ทราบครับ ต้องตามไปดูเองข้อมูลการสอบสวนโรค แต่เรียนว่าสถานการณ์วันนี้เป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ค่อนข้างหนักมาก และแพร่กระจายไปเกือบทุกพื้่นที่ในกทม. รวมทั้งต่างจังหวัดด้วย”

หมอตี๋

ครั้งนี้หนักมาก?

หนักมาก ถ้าเทียบกับคลัสเตอร์บ่อนที่ภาคตะวันออก อันนั้นก็โกลาหลพอสมควร แต่ครั้งนี้ผมคิดว่า ครั้งนี้ตัวคลัสเตอร์สถานบันเทิง ที่มีคนไปรวมตัวกันจำนวนมาก ๆ ในสถานที่ปิด มีการดื่มสุรา ร่วมโต๊ะเดียวกัน มีการมึนเมาใกล้ชิดกัน คลุกเคล้ากัน หลังจากนั้นก็มีไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่นไปตีกอล์ฟ ไปกินอาหาร ไปเที่ยวผับ มันก็กระจายตัวออกไป เรากำลังตามไล่อยู่ ผมคิดว่าเป็นสถานการณ์ที่ตามหลังอยู่ และยากพอสมควร”

คลัสเตอร์แรกที่เจอคือสนามมวย ฮือฮามากเปิดศักราชใหม่ของโควิดในประเทศไทย สองมาที่สมุทรสาคร และมาที่บ่อน?

“ไล่ใหญ่ ๆ นะครับ แต่ว่ามีทองหล่อด้วยก่อนหน้านี้ แต่อันนั้นเล็ก ๆ”

สถานการณ์วันนี้กับสมุทรสาครถ้าเทียบกัน?

“สมุทรสาครใหญ่กว่า แต่บังเอิญอยู่ในพื้นที่คนแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะ เรากักกันได้ แต่พอมาสถานบันเทิง เป็นคนมีฐานะไปเที่ยวรวมกัน มีน้องพริตตี้ที่ทำงานไม่ได้ทำงานที่นี่ที่เดียว พร้อมเดินทาง และไปเที่ยวส่วนตัวด้วย ดังนั้น ไทม์ไลน์ก็เจอคนจำนวนมาก การเจอคนจำนวนมาก ถ้ามีคนติดเชื้อ การตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็มีความยาก ต้องตามไล่หลัง

ฉะนั้นก็เลยกลายเป็นว่าขณะนี้ สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง ค่อย ๆ โผล่มาเรื่อย ๆ เมื่อเช้าข่าวที่ส่งมาว่าการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ ยังไม่ยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ แต่ตอนนี้ยืนยันแล้ว จากคนที่เข้าไปตรวจที่จุฬาฯ เฉลี่ยวันละ 100 – 200 คน 24 ตัวอย่างจากสถานบันเทิงทองหล่อ พบว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษ B117 แพร่เชื้่อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิมมีถึง 70% ต้องเร่งควบคุม คือแพร่ได้เร็วขึ้น แต่อาการไม่ได้รุนแรง แต่ถ้าอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อมันสามารถกระจายตัวได้รวดเร็วขึ้น

ตอนนี้โควิด-19 ที่เจอ กว่า 70% ที่พบเป็นสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้เราเคยพูดว่ามีคนเข้ามาแต่เรากักไว้ได้ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว 70% ที่เจอเป็นสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษจาก 24 ตัวอย่าง?

“ก็ถือว่ามาก แต่โดยภาพรวมต้องไปเก็บให้มากขึ้น แต่ก็ถือว่าเยอะ”

เมื่อเช้าท่านได้ไปประชุม?

“ตอนนี้ก็ประชุมครม. กันอยู่ เรียนว่าสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นไปตามกฎหมายปกติ คือกฎหมายควบคุมโรคติดต่อ แต่ขณะนี้เรามีศบค. เป็นกฎหมายที่อยู่ในถสานการณ์ฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องเสนอต่อศบค. เพราะมีผลกระทบในแง่ธุรกิจต่าง ๆ ที่เรามีประสบการณ์ อย่างร้านอาหาร กิจกรรมที่ค่อย ๆ ฟื้นในระลอกสอง มาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เขาก็ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ในส่วนสาธารณสุข ผมก็เสนอว่ามันต้องปิดการเคลื่อนตัวของคน”

จะปิดยังไงในเมื่อเราเข้าสู่ช่วงสงกรานต์?

“ผมพูดเฉพาะในกรุงเทพฯ ในกรุงเทพฯ เป็นชุมชนเมืองที่คุมยาก และคลัสเตอร์นี้ เป็นคลัสเตอร์สถานบันเทิงที่กระจายตัวไปเยอะแล้ว และไปเจอคนจำนวนมาก อันแรกที่จะทำได้คือ หยุด เพื่อไม่ให้ผู้ต้องสงสัย หรือผู้มีความเสี่ยงไปเจอคนอื่นอีก แต่ทีนี้ปิดมันกระทบแน่นอนในแง่ธุรกิจและต่าง ๆ ทำมาค้าขายที่กำลังจะดีขึ้น แต่ส่วนตัวผมที่ต้องปิด ใช้คำว่าเจ็บแต่จบ ถ้าเราปิดกั้นและคุมได้ภายใน 14 – 28 วัน โรงเรียนต่าง ๆ ที่เป็นคลัสเตอร์ มันก็จะกลับมาใหม่ได้ ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์นี้ คนไม่มีความเชื่อมั่น แล้วเราเปิดไปด้วย และปล่อยยืดเยื้อออกไป มันอาจต้องใช้เวลามากกว่า 28 วัน เท่ากับว่าในตอนนั้นก็อาจขายไม่ได้ไปด้วยและใช้เวลานานกว่าเดิมไปด้วย อันนี้้ต้องเลือกว่าวิธีไหน ส่วนตัวผม ต้องเร็วในการปิดกั้นการพบปะของผู้คน”

หมอตี๋

ล่าสุดมีการประกาศว่าจะปิดเป็นจุด ๆ ไปก่อน?

ผมไม่เห็นด้วย วันที่เราปิดที่นั่น คนก็แห่ไปที่อื่นอยู่แล้ว ฉะนั้นปิดที่เดียวไม่เกิดประโยชน์ เฉพาะในกรุงเทพฯ นะครับ แต่สำหรับการไปต่างจังหวัด ผมเห็นว่ามีจุดเปลี่ยนอยู่ระลอกนึง วันนี้เขามีประสบการณ์ในการควบคุม ตะครุบสกัดสะเก็ดไฟได้ ผมว่าทีมต่างจังหวัดควบคุมได้ว่า คนไปจากพื้นที่เสี่ยงเป็นใคร ต้องกักตัวหรือไม่ หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องไปกักตัวให้ครบตามจำนวนวัน และตรวจไม่ให้แพร่ระบาดต่อไปได้ ผมแน่ใจว่า ถ้าไปต่างจังหวัดเขามีศักยภาพในการควบคุมได้ แต่ถ้ากรุงเทพฯ แล้วไม่ปิด โอ้โห มันกระจายและตามยาก เพราะบางคนไม่มีอาการ ซึ่งสำคัญมาก คนไม่มีอาการก็ไปเรื่อย ๆ เป็นทอด ๆ จนกว่าจะเจอคนมีอาการ ซึ่งเยอะที่เกิดขึ้น”

วันนี้ไม่มีการประกาศว่าต้องปิดทุกจุดในกรุงเทพฯ?

กำลังพิจารณาครับ ผมว่าต้องเคาะเร็วที่สุด ถ้าไม่เร็วจะตามไม่ทัน ผมว่ามันต้องทำคู่กัน ปิดไว้ก่อนแล้วไล่ตาม แต่ถ้าไม่ปิดแล้วไล่ตามไปด้วยมันจะตามทันยาก

อีกไม่กี่วันเข้าสงกรานต์ คนไทยอยากออกไปเที่ยว กลับไปเหมือนปีที่แล้วอีกเหรอ เป็นไปได้มั้ยประกาศปิดก่อนสงกรานต์?

“สำหรับกรุงเทพฯ ความหมายของผมโรงเรียนที่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ซึ่งตอนนี้มีแต่โรงเรียนเอกชนเท่านั้นที่เปิด ผับบาร์ คาราโอเกะปิด โรงแรมมีคนน้อยอยู่แล้ว ก็ไปดูการรวมตัวของการประชุมในโรงแรม ต้องหยุดทันที แต่การเดินทางกลับจากต่างจังหวัด จะเป็นอีกรูปแบบนึง การเดินทางโดยรถประจำทาง ต้องเว้นระยะให้เหมาะสม หรือการจัดการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดถึงแม้ไม่ห้าม แต่ถ้าไปจากพื้นที่และมีความเสี่ยง ก็ต้องไปกักตัว แต่ถ้าไม่เสี่ยงก็ถือว่ากลับไปเยี่ยมครอบครัว ปู่ย่าตายาย คุณพ่อคุณแม่ได้”

กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สีแดงแล้ว?

“ครับ เป็นไปแล้ว เป็น 5 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มข้นสูงสุด กรุงเทพฯ ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, นครปฐม ผมมีเรื่องฝาก บนพื้นฐานเจ้าหน้าที่ทำงานหนักอยู่ในช่วงที่โกลาหล ต้องมีคนแจ้งที่นั่นที่นี่ หลักการคือ คนมีอาการหรือติดเชื้อต้องแอดมิดรพ. ถ้าแอดมิทแล้วก็จะสอบสวนโรคว่า ใครใกล้ชิดเขา มีความเสี่ยงสูงต้องเอาไปกักตัว ผมยืนยันว่า ในส่วนของเตียงในรพ. เรามีพร้อม เราเตรียมไว้ 2 – 3 พันเตียง ทีนี้วิธีที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ได้ คือ การวินิจฉัยตัวเอง สมมติเราไม่แน่ใจว่าเราไปที่ไหน แต่เราทราบว่ามีคนติดเชื้อ วงที่หนึ่งถ้าเราสัมผัสคนติดเชื้อถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แน่นอนต้องกักตัว และต้องไปตรวจ แต่วงที่สอง ถ้าสัมผัสเสี่ยงต่ำก็ไม่ต้องทำอะไร ดูอาการอยู่ที่บ้าน วงที่สามถือว่าไม่เสี่ยง ไม่ต้องทำอะไร”

เสี่ยงสูงอยู่บ้านได้มั้ย?

“เสี่ยงสูงต้องไปรพ.รัฐใกล้บ้าน เพื่อขอให้ได้รับการตรวจก่อน เพราะต้องแจ้งว่า สัมผัสกับผู้ติดเชื้อใกล้ชิด ทางรพ.รัฐตรวจให้ ตรวจแล้วเป็นแอดมิททันที ถ้าไม่เป็นก็ไปกักตัวที่บ้าน ไปตรวจรพ.เอกชนก็ได้ เป็นการทำงานร่วมกัน แต่เขาต้องวินิจฉัยก่อนว่าเขามีความเสี่ยงสูงตามวงแรก แต่ถ้าเป็นเสี่ยงต่ำแล้วไปตรวจ เขาคงไม่ตรวจให้”

ถ้าวันนี้มีคน ๆ นึงไปเที่ยวสถานบันเทิง ไปอยู่กับคนที่เป็น คนนี้ไปบอกได้เลยว่าไปเจอคนที่เป็นมา เจอที่นี่?

“ต้องวินิจฉัยตัวเองนิดนึงว่าเจอยังไง ถ้าเจอเหมือนผมกับคุณหนุ่มถือว่าไม่เสี่ยง อาจเสี่ยงกลาง แต่ถ้าเจอแล้วใส่หน้ากากสองฝ่าย ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ากินเหล้ากินอาหารโต๊ะเดียวกัน คุยกันไม่ห่าง ไม่เกินเมตรครึ่ง ไม่มีระยะห่าง ไม่ใส่หน้ากากอนามัยอันนี้ชัดเจนเสี่ยงสูงแน่นอน ถ้าอยู่ห้องใหญ่ ๆ ไกล ๆ ไม่ได้สัมผัสตัวกันถือว่าไม่เสี่ยงสูง”

ล่าสุดมีลักษณะเหมือนเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่แกรนด์เซ็นเตอร์พอยท์สุขุมวิท เป็นโรงแรม ปรากฎว่าคุณแสตมป์ไปร้องเพลงอยู่ข้างบน มีน้องปีโป้ ติดกันเยอะมาก อย่างนี้่ทำยังไง นักร้อง นักแสดง ลามมานักกีฬา คุณบดินทร์ มีกลุ่มการเมืองด้วย กลุ่มแบบนี้จะทำยังไง?

“ถ้าลักษณะแบบนี้อาจต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยวินิจฉัย ถ้าลักษณะคนร้องเพลงไม่ได้ใส่หน้ากาก การการกระจายของสารคัดหลั่ง อย่างน้ำลายที่อาจฟุ้งไปในสถานที่ปิด เป็นห้องแอร์รวม อาจมีมาตรการหรือมาตรฐานที่ต่างออกไป ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็มาสอบสวนว่าอยู่ใกล้ชิดแบบไหนถึงจะเป็นเสี่ยงสูง เช่นอยู่ในสถานบันเทิงก็มีความน่าเป็นห่วงถ้าเกิดจากนักร้องที่ติดเชื้อ เหมือนสนามมวย ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการติดเชื้อก็อาจเกิดขึ้นได้ง่ายมากกว่าปกติ”

มีความกังวลเรื่องวัคซีน เท่าที่ทราบคุณศักดิ์สยามเคยไปฉีดแล้ว ล่าสุดติดโควิด?

“อาจเป็นจำนวนน้อย ที่ฉีดแล้วภูมิต้านทานขึ้นช้า เมื่อได้รับเชื้อก็อาจเป็นผู้ติดเชื้อได้ แต่ว่าเท่าที่ได้รับข้อมูลมาจากวัคซีนทั้งสองยี่ห้อ ป้องกันอาการรุนแรงได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าคุณศักดิ์สยามอาจติดเชื้อแต่ไม่มีอาการรุนแรง นี่คืองานวิจัยที่เขาค้นคว้ามาทั้งสองยี่ห้อนี้”

ท่านบอกฉีดวัคซีน 2 เข็มแล้ว?

“ก็อาจเกิดขึ้นได้ ผมเป็นเบสไลน์ที่เป็นตัวอย่าง ผมฉีดเข็มแรกเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้ว หลัง 3 วันไปตรวจภูมิต้านทานไม่ขึ้นเลย พรุ่งนี้ไปตรวจอีกครั้งเพราะผมฉีดเข็มที่สองมาแล้ว 7 วัน ซึ่งการค้นคว้าวิจัยแต่ละบริษัทเขาก็มีรายงานว่าประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องไปดูว่าจำนวนคน 100 คน อาจป้องกันได้ อย่างซิโนแวค ฉีด 2 เข็มแล้วอาจ 70% ฉะนั้นอาจมีคนติดเชื้ออีก 30% แต่ที่การันตีได้คืออาการไม่รุนแรง ทั้งสองยี่ห้อนี้ มันอาจเกิดขึ้นและเป็นส่วนน้อยที่เกิดขึ้น”

ภาครัฐเองหรือสาธารณสุขเอง มีมาตรการอะไรบ้าง บางคนไม่กักตัว?

“ในพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อมีโทษนะถ้าไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่ ทั้งติดหรือใครก็ตามที่เขาแนะนำแล้วไม่ปฏิบัติตาม ถ้าไม่เชื่อฟังจะมีทั้งโทษปรับและโทษจำ”

อาจมีประเภท ฉันไปอยู่ใกล้ ๆ คนติดโควิด เป็นคนมีความเสี่ยงสูง แล้วเขาไม่กักตัว ออกไปเดินเอ้อระเหย?

มีโทษแน่นอน แต่ว่าต้องเรียนว่าเราผ่านประสบการณ์เรื่องนี้มาเยอะพอสมควร เรื่องสังคมมีความคิดต่างมีหลายส่วน แม่ค้าในตลาดอาจบอกว่าโควิดเป็นแล้วไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่เจ็บคอนิดหน่อย ฉันกลัวอดตายมากกว่า ฉันก็ไปทำมาหากินเหมือนเดิม เขาก็มีเหตุผลของเขา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ทำงาน ถ้าสอบสวนโรคแล้วพบคนๆ นั้นมีความเสี่ยงสูง แล้วแนะนำให้ไปตรวจ ถ้าไม่ตรวจไม่กัก อันนี้มีความผิดในพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อแน่นอน

การประเมินตัวเอง?

“เจ้าหน้าที่เขาตามสอบสวนโรคมันเยอะ เจ้าหน้าที่เรามีจำกัดในกรุงเทพฯ ก็อาจไม่ทัน ถ้าทุกคนไปตรวจเพื่อความสบายใจอย่างเดียวคงไม่ไหว บางคนเพื่อความสบายใจอยากไปตรวจรพ.เอกชน อย่างเพื่อนผม เพราะเข้าใจว่าเร็วและยอมเสียเงิน ปรากฎว่าใช้เวลา 3 ชม. ถ้าเราประเมินตัวเองได้ว่า เราไม่ใช่คนเสี่ยงสูง โดยใช้ความจำกับผู้ที่เราทราบว่า เขาติดเชื้อก็จะช่วยงานเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองคนกลุ่มใดไปตรวจ จะช่วยเจ้าหน้าที่ได้เยอะเลย

และคนสัมผัสเสี่ยงสูงไปสัมผัสคนเป็น ต้องกักตัวเองรอเพื่อความปลอดภัย ให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปตรวจก่อนเพื่อความปลอดภัย การช่วยเจ้าหน้าที่ได้ วิงวอนพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดเราต้องป้องกันตัวเองให้ดีก่อนตอนนี้ พื้นๆ เลย ทำความสะอาด เว้นระยะห่าง อย่าเอามือไปสัมผัสกับสิ่งที่จะเข้าร่างกายเรา จะช่วยได้เยอะเลย”

ท่านบอกครั้งนี้หนักกว่าครั้งก่อน ๆ ด้วยซ้ำไป คนที่จะกลับบ้านช่วงสงกรานต์จะทำยังไง เขาอาจนำเชื้อไปต่างจังหวัด?

“เราพูดเรื่องวินิจฉัยตัวเอง ถ้าเราไม่ได้มีความเสี่ยงเป็นผู้สัมผัส หรือผู้ติดเชื้อ เราก็สามารถเดินทางกลับไปจังหวัดที่เขายังไม่ห้ามได้ ผมยังย้ำว่า การที่คนเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด เขามีมาตรการต่าง ๆ คนติดเชื้อน้อยกว่า และถึงติดเชื้อเขาจะมีศักยภาพควบคุมได้ดีกว่า ผมว่าการเดินทางกลับต่างจังหวัด อาจเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว ทำตัวไม่ประมาทก็ช่วยได้ แต่ถ้าเรามีความเสี่ยงต้องกักตัวทันที ไม่พบใคร ต้องรอเวลา”

หมอตี๋

เหมือนกลับมานับหนึ่งใหม่อีกแล้ว?

“ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เวลานี้เราคงไม่ไปตำหนิใคร วิถีหรือการปฏิบัติตัวของคนในชีวิตประจำวันก็ต้องเข้าใจ ประเทศอื่นก็เป็นแบบเรา เกาหลีใต้มีเฟส 3 ไปแล้ว เยอรมันไปเฟส 4 แล้ว ฝรั่งเศสก็เป้นแบบนี้ เพราะอึดอัด เขาดูตัวเลขว่าผู้ติดเชื้อมันลดลง เขามองว่าไม่มีอะไรก็ผ่อนคลาย พอผ่อนคลายมันก็มาอีก การดูแลตัวเองก็สำคัญมาก”

โควิดระลอกใหม่ มีโอกาสไปถึงสิ้นปีอีกมั้ย?

“ถ้าเราควบคุมให้ได้น้อยที่สุด ทุกคนระวังตัว เราฉีดวัคซีนตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ธันวาคม ถ้าคุมได้น้อย ๆ ฉีดวัคซีนไปด้วย เราจะสู้ได้ในเดือนธันวาคม และจะเริ่มต้นแบบนี้กับประเทศที่มีสถานะใกล้เคียงกับเรา แต่ถ้าเราทำเสร็จก่อน ก็ดูประเทศไทยสามารถฉีดวัคซีนได้มากแล้ว อย่างอังกฤษ เขาเร่งฉีดวีคซีนจนเกือบครบ ของเรากำลังดำเนินการฉีดอยุ่ แต่ฉีดตามวัคซีนที่ได้ วันที่ 10 เมษายน วัคซีนจะมาอีกล้านนึงก็ไล่ฉีดไป แต่ตอนนี้ฉีดไปล้านนึงแล้ว รับมาล้านนึง ฉีดไป 4 – 5 แสนแล้ว”

มีประเด็นทำไมคนนั้นได้ฉีด ฉันไม่ได้ฉีด?

“ไม่มีความเหลื่อมล้ำ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องอธิบายให้เกิดความเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น กทม. ได้รับวัคซีนมา 6 หมื่น ตอนแรก 6.6 หมื่น แต่เราเร่งว่ากทม.ไปฉีดให้เสร็จในฝั่งตะวันตก แต่ปรากฎว่าคนไม่เชื่อมั่น เราใช้ความสมัครใจ เขากลัวก็ไม่มาฉีด เขาก็ฉีดได้น้อย เราก็เร่งว่าทำไมไม่ฉีด งั้นล็อตหลังมาเราไม่ให้คุณนะ เพราะคุณไม่มีแผนการฉีดที่ดี เขาก็ไปเร่งฉีด ปรากฎว่าเขาให้รพ.ในสังกัดกทม.ไปประกาศว่าใครก็ได้มาฉีด ก็อาจมีข้อบกพร่องว่าปกติเราให้กลุ่มเสี่ยงก่อน แต่เขาเร่งเพื่อให้ระบายวัคซีนออกไป เพื่อได้วัคซีนล็อตต่อมา เราก็บอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องให้กลุ่มเสี่ยงเท่านั้น เช่นกลุ่มผู้ป่วย กลุ่มคุณหมอ มันมีความยากอยู่ในการจัดการวัคซีน ในกรุงเทพฯ ที่มีคนมาโพสต์เราก็ตำหนิกทม.ไปแล้วในการดำเนินการ”

เชื่อว่าข้อมูลแบบนี้คนไทยไม่รู้ ทำไมสาธารณสุขหรือรัฐบาล สร้างเซ็นเตอร์ข่าวขึ้นมาเพื่อส่งสารเหล่านี้ถึงประชาชนโดยตรง อันนี้พอไม่มีการปล่อยออกมา ทุกคนก็กลับไปด่า?

“แต่ต้องเข้าใจ จริง ๆ กระทรวงสาธารณสุขเขามีแถลงทุกวันทุกบ่ายสามโมง ก็มีข้อมูลนี้อยู่ เพียงแต่ต้องยอมรับความจริงร่วมกันว่าในสถานการณ์ปกติ คนเราเลือกบริโภคสิ่งที่ตัวเองสนใจ ผ่านสื่อที่ตัวเองสนใจ ในภาวะที่โควิดไม่มีเคสเยอะหรือไม่ได้รับความสนใจ คนส่วนใหญ่อาจไปดูเรื่องอื่น อาจไม่ได้สนใจข้อมูลเหล่านี้ แต่พอมีเรื่องนี้กลับขึ้นมา เราก็ถือโอกาสสื่อสารสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงให้พี่น้องผ่านสื่อพวกนี้ อาจพูดไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ากระทรวงหรือรัฐบาลไม่นำเสนอข้อมูลเหล่านี้ เพียงแต่ว่าความสนใจในสถานการณ์แตกต่างกัน ประชาชนจะเลือกบริโภคข้อมูลอื่นที่เขาคิดว่าสำคัญต่อเขา”

ครม.กังวลมั้ยเพราะมีรัฐมนตรีติดแล้ว?

“กังวลสิครับ (หัวเราะ)”

มีประเด็นที่ชาวบ้านพูดกันว่ารัฐมนตรียังติดเลย แล้วจะเป็นตัวอย่างยังไงให้ประชาชนได้เห็น?

ได้ทราบว่ารัฐบาลงดทุกกิจกรรมแล้ววันนี้ ท่านนายกฯ งดกิจกรรม สอง คือ โควิดไม่เลือกตำแหน่ง ไม่เลือกคน ไม่เลือกจนรวย มันเป็นได้หมด แต่มันเลือกคนที่ระวังตัว สังคมช่วยกันพิจารณาแล้วกัน ใครระวังตัวมากอาจไม่ติด และคนติดอาจไปลงโทษเขาไม่ได้ เพราะเขาอาจไปผ่อนคลายบางช่วงเวลาและอาจบังเอิญโชคร้าย แต่คนใช้ชีวิตเสพสุขในสถานบันเทิงมากเกินไป เขาก็เสี่ยงมากกว่า เขาก็ได้รับโทษแล้ว เขาก็ติดเชื้อ

จะได้เห็นไทม์ไลน์รัฐมนตรีมั้ยถ้าเกิดว่าติด?

“ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนโรค ผมย้ำตรงนี้เลยว่ากระทรวงสาธารณสุขเราอยู่มานาน เราได้รับการยอมรับ จำเป็นต้องเปิดเผยอย่างโปร่งใสในการสอบสวนโรค เราต้องทำตรงนี้ให้ชัดเจนและได้รับความเชื่อมั่น”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo